ประชุมครม.อำนาจเจริญและอุบลราชธานี/แห่เทียนเข้าพรรษาที่อุบลราชธานี/สนช.เตือนเว้นไพรมารีโหวตขัดเจตนาคสช.

ในวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะออกเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 5/2561 ณ จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 23–24 กรกฎาคม 2561

โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้ผักอินทรีย์ เมืองธรรมเกษตร ไร่ภูตะวัน ออร์แกนิคฟาร์ม บ้านหนองเม็ก ตำบลคึมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ จากนั้นจะไปเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์แพทย์แผนไทยพนา ตำบลพระเหลา อำเภอพนา

ช่วงบ่ายจะไปกราบสักการะพระอัฐิธาตุของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) พร้อมนมัสการเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพงและพระลูกศิษย์ของพระโพธิญาณเถร ณ วัดหนองป่าพง ตำบลโนนผึ้ง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จากนั้นจะไปที่สวนพฤกษศาสตร์ดงฟ้าห่วน ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และเป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน และการมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 (อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร)

เวลา 18.30 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2561 “ฮีตศรัทธา ราชธานีแห่งเทียน” ณ ลานเทียน มณฑลพิธีทุ่งศรีเมือง และร่วมกิจกรรมงาน “ชื่นสุขี ศรีวนาลัย” ณ ลานขวัญเมือง

โดยการตรวจราชการ จะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ การพัฒนาแพทย์แผนไทยที่สอดคล้องกับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้เพื่อสร้างสมดุลธรรมชาติ และการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ มุ่งไปสู่เป้าหมายการพัฒนากลุ่มจังหวัด คือ “อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและเกษตรอินทรีย์เพิ่มมูลค่า การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การค้าชายแดนได้มาตรฐานสากล”

สำหรับสภาพปัญหาในพื้นที่ที่ต้องเร่งแก้ไข คือ รายได้ของประชาชนที่อยู่ในระดับต่ำ โดยยโสธร ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญอยู่ในกลุ่ม 10 จังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวต่ำที่สุดของประเทศ มีความก้าวหน้าด้านการศึกษาน้อย เกิดภาวะน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซาก และมีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ครม. จะพิจารณาข้อเสนอแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มจังหวัด เช่น การขยายช่องจราจร ขยายสนามบิน ศึกษาโครงการรถไฟทางคู่ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและแก้ปัญหาน้ำท่วม และการยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยในการประชุม ครม.สัญจร กลุ่มจังหวัดอีสานตอนล่าง 2 จะมีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ 11,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนา

ด้าน พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาวิชาการ Future Economy & Internet Governance : Big Change to Big Chance พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "Future Economy & Internet Governance”  ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ

จากนั้น เวลา 15.00 น. จะไปตรวจเยี่ยมศูนย์ดิจิทัลชุมชนวัดบูรพาบ้านทุ่งแต้ ตำบลทุ่งแต้ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร และเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการยุติธรรมสู่หมู่บ้านนำบริการรัฐสู่ประชาชน ครั้งที่ 9/2561 ที่พระธาตุก่องข้าวน้อย ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

ด้าน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมโรงเรียนพระปริยัติธรรมหนองขุ่นวิทยา วัดหนองขุ่น ตำบลยางโยภาพ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี

โดยประเด็นการเมืองที่ต้องติดตามต่อในวันนี้ คือกรณีที่มีความเป็นไปได้ที่ คสช.จะใช้มาตรา44 ยกเว้นการใช้ระบบไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งสมัยหน้า ตามที่พรรคการเมืองเรียกร้อง พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตือนว่า อาจขัดรัฐธรรมนูญและขัดต่อเจตนาของ คสช.เองที่ต้องการปฏิรูปการเมือง

ยังมีกรณีสินบน บริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ซิสเต็มส์ ในโครงการเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนในไทย เมื่อปี 2556 ซึ่ง ป.ป.ช.เปิดเผยภาพหลักฐานขณะเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่า นักการเมืองท้องถิ่น และตำรวจน้ำ เรียกรับสินบน 20 ล้านบาท นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การสอบสวนเหตุรับสินบน ไม่เป็นเหตุให้ต้องหยุดการก่อสร้างโครงการเพราะเป็นคนละประเด็น บริษัทมิตซูบิชิไม่ได้ชนะประมูลด้วยการให้สินบน แต่จ่ายสินบนเพื่อลำเลียงวัสดุขึ้นท่ามาก่อสร้าง

ส่วนกรณีการจ่ายสินบนของบริษัท โรลส์ รอยซ์ จำกัดให้เจ้าหน้าที่รัฐในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) นายสุรศักดิ์ ยอมรับว่า การตรวจสอบเส้นทางการเงินถือว่ามีความยากลำบาก เนื่องจากดำเนินการผ่านสถาบันการเงินต่างประเทศ และสถาบันการเงินเหล่านั้นได้ค่าธรรมเนียมจากการดำเนินการ จึงต้องประสานกับป.ป.ช.ของประเทศเหล่านั้น เพื่อใช้อำนาจตามกฎหมายดำเนินการ