องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF เปิดเผยรายงาน “ชีพจรผืนป่า” ชี้ว่า ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเป็น 1 ใน 11 พื้นที่เสี่ยงของโลกที่มีแนวโน้มสูญเสียพื้นที่ป่าในระยะ 10 ปีข้างหน้า โดยรายงานได้ประเมินสถานการณ์ในห้วง 10 ปีข้างหน้าระบุว่า โลกจะสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ร้อยละ 80 ของป่าไม้ทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 11 จุด ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้อยู่ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่มีป่าไม้หนาแน่นมากที่สุดของโลก ครอบคลุมกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม ปัจจุบัน สูญเสียพื้นที่ป่าไม้แล้ว 1 ใน 3 และคาดว่าจะสูญเสียพื้นที่ป่าไม้อีก 1 ใน 3 ในระยะ 10 ปีข้างหน้า หากไม่ดำเนินมาตรการปกป้องพื้นที่ผืนป่าอย่างจริงจัง รายงานให้ข้อสังเกตว่าการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ 5 ประเทศลุ่มน้ำโขงมีสาเหตุมาจากการขยายตัวของเกษตรกรรม การปลูกยาง การตัดไม้ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย การสร้างเขื่อน การขยายถนน และการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ สภาพอากาศเลวร้าย ดินถล่ม รายได้ลดต่ำลง และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รายงานยังเตือนให้รัฐบาล ภาครัฐ และเอกชนตระหนักถึงคุณค่าผืนป่า น้ำสะอาด ชีวิตความเป็นอยู่ และความจำเป็นในการปกป้องผืนป่า พร้อมให้คำแนะนำหยุดตัดไม้ทำลายป่า และแสวงหานวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ป่าไม้แบบยั่งยืนให้แก่ชุมชน นอกจากนี้ ยังแนะนำการมีกฎหมายที่ชัดเจนในการอนุรักษ์ป่าไม้แบบยั่งยืนและส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชน ในขณะที่ผู้ผลิตและผู้บริโภคก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ส่งเสริมการตัดไม้ทำลายป่า
...
(1255 F171)