นายสตีเฟ่น มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เปิดเผยก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลัง และผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ประเทศ หรือ กลุ่ม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา โดยกล่าวว่า จะผลักดันจีนและสหภาพยุโรป หรือ อียู เห็นพ้องกับการรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าให้สมดุล แม้สหรัฐฯ จะต้องการลดการขาดดุลการค้า แต่ก็ปรารถนาจะเปิดตลาดเพื่อแข่งขันการค้าอย่างยุติธรรมและเพิ่มการส่งออก โดยเฉพาะไปยังตลาดจีน ซึ่งมีประชากรจำนวนมากและนับวันจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก ซึ่งก็จะมีการใช้สินค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สินค้าจากสหรัฐฯ มากยิ่งขึ้น แต่นายมนูชินไม่เห็นด้วยกับการร่วมทุน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี เนื่องด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงส่วนอียู นายมนูชินเห็นว่า หากยุโรปเชื่อในการค้าเสรี สหรัฐฯ ก็พร้อมจะลงนามข้อตกลงการค้าเสรี ซึ่งจะต้องไม่มีการให้เงินอุดหนุนและการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าหรือการจัดเก็บภาษี
ขณะที่นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์ว่า ยุโรปกังวลเกี่ยวกับการถูกดึงเข้าไปในการทำสงครามการค้าโลก ซึ่งจะไม่มีผู้ใดเป็นฝ่ายชนะ มีแต่จะทำลายงานและกดดันการเติบโตของโลก สหรัฐฯ จึงควรเคารพกฎระเบียบพหุภาคีและพันธมิตร นอกจากนี้ ยังเห็นว่า หนทางเดียวในการแก้ปัญหาคือ สหรัฐฯ อียู และจีนควรหารือกันแทนที่จะดำเนินมาตรการตอบโต้ ซึ่งสร้างความไม่สมดุลทางการแข่งขันและไม่เป็นที่ยอมรับ
ส่วนนางคริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ย้ำความกังวลในระหว่างเปิดการประชุมกลุ่ม G20 ว่า การเพิ่มข้อจำกัดทางการค้ามีแต่จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี โลกเสียหาย
....
(0935 F171)