การติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในพื้นที่ภาคใต้ ที่จังหวัดตรัง นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานพร้อมพบปะเยี่ยมราษฎร โดยช่วงเช้าได้เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมู่ที่ 1 บ้านท่างิ้ว ตำบลท่างิ้ว อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นโครงการที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2533 ตามที่ราษฎรตำบลท่างิ้ว ตำบลช้างแล่น และตำบลห้วยนาง อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ขอพระราชทานโครงการเพื่อช่วยเหลือ เนื่องจากประสบปัญหาความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภค บริโภค โดยกรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้วฯ พร้อมจัดทำระบบส่งน้ำแล้วเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2553 โดยอ่างเก็บน้ำ สามารถเก็บกักน้ำได้ 18.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันส่งน้ำ 2 ลักษณะ คือระบบท่อส่งน้ำ ซึ่งมีจำนวน 5 สาย ความยาวรวม 19.04 กิโลเมตร มีพื้นที่รับประโยชน์ 5,200ไร่ และส่งน้ำโดยลงสู่ตามลำน้ำเดิม หรือคลองธรรมชาติ ความยาวรวม 27 กิโลเมตร มีอาคารชลประทานขนาดเล็กตั้งอยู่เป็นช่วง ๆ ของลำน้ำ ทำหน้าที่กระจายน้ำเข้าสู่แปลงเพาะปลูก ซึ่งมีพื้นที่ได้รับประโยชน์จำนวน 12,700 ไร่
นอกจากนี้ ยังได้สร้างประโยชน์ในการส่งน้ำดิบให้แก่การประปาส่วนภูมิภาคสาขาห้วยยอด วันละ 9,000 ลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำทำประปาหมู่บ้านบางส่วนให้แก่ตำบลท่างิ้ว ตำบลหนองช้างแล่น และตำบลเขากอบ วันละ 1,440ลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำเพื่อการเลี้ยงสัตว์ฟาร์มไก่เนื้อ อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงหน้าแล้งโดยส่งน้ำให้กับถ้ำเลเขากอบ ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบและราษฎรมีรายได้จากการท่องเที่ยวจากกิจกรรมพายเรือได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเลี้ยงปลาในกระชัง สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรซึ่งเกษตรกร 1 ราย มีรายได้จากการเลี้ยงปลาในกระชัง จำนวน 30 กระชัง กำไรเฉลี่ย 15,000บาท ต่อกระชัง
นางพัชรี สีสุข ชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้ถวายฎีกาเพื่อขออ่างเก็บน้ำ เนื่องจาก ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำเป็นอย่างมากโดยเฉพาะฤดูน้ำหลากที่น้ำจะเข้าท่วมเต็มพื้นที่การเกษตร แต่เมื่อมีอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก็สามารถแก้ปัญหาได้ และยังสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง อีกชาวบ้านในพื้นที่ยังได้ดำเนินการตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยนางพัชรี ระบุว่า ในส่วนของตนเองนอกจากปลูกสวนเงาะ ส้มจุก ยังปลูกผักสวนครัว เลี้ยงปลา และเลี้ยงไก่อีกด้วย
ขณะที่นายชินพัฒน์ หมุนกลับ ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้ว หมู่ 1 ตำบลท่างิ้ว อำเภอห้วยยอด จ.ตรัง ระบุว่า ในพื้นที่ได้จัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่อบริหารจัดการน้ำจากอ่างเก็บน้ำ ซึ่งตั้งแต่ดำเนินการมาจนถึงขณะนี้ยังไม่พบปัญหา ทั้งนี้ในนามกลุ่มผู้ใช้น้ำ และชาวจังหวัดตรัง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานอ่างเก็บน้ำ เพราะหลังจากมีอ่างเก็บน้ำประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่เจอปัญหาน้ำท่วมภัย น้ำแล้ง และมีอาชีพเสริมมากกมาย เช่นการเลี้ยงปลา พร้อมกันนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ซึ่งจากการที่ตนเองติดตามข่าวทราบว่า พระองค์ท่านทรงห่วงใยประชาชนโดยเฉพาะเรื่องน้ำ และจิตอาสา และขอบคุณคณะติดตามการดำเนินงานที่แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านไม่ทิ้งทุกคน และสืบสานต่อยอดโครงการต่าง ๆ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ต่อไป
จากนั้นได้เดินทางไปยังโครงการปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำของฝายทดน้ำบ้านไร่เหนืออันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง สำหรับโครงการดังกล่าวเนื่องมาจากราษฎรหมู่ที่ 6 ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาวจังหวัดตรัง ได้ขอพระราชทานโครงการเพื่อช่วยเหลือราษฎรหมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 6ตำบลโพรงจระเข้ ซึ่งขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการปรับปรุงระบบท่อส่งน้ำของฝายทดน้ำบ้านไร่เหนือไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยกรมชลประทาน ได้กำหนดแผนงานและกิจกรรมที่จะดำเนินการ โดยก่อสร้างทางรับน้ำหน้าฝายบ้านไร่เหนือ จำนวน 11 แห่ง ก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำจำนวน 3 สาย ความยาวรวม ประมาณ 8,825 เมตร ก่อสร้างถังเก็บน้ำขนาดความจุ 50 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 5 แห่ง ปัจจุบันได้มีการออกแบบเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก กปร. และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะสามารถช่วยเหลือราษฎรบ้านโคกทรายเหนือหมู่ที่ 4และบ้านโคกทรายใต้ หมู่ที่ 6 ตำบลโพรงจระเข้ จำนวน 476 ครัวเรือน 1,350 คน มีน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคได้อย่างเพียงพอตลอดปีต่อไป
ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี