ความเคลื่อนไหวเมื่องไทยวันนี้ 07.30 น.
+++ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชานุญาตให้ใช้พระลานพระราชวังดุสิตเป็นสถานที่จัดเลี้ยงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายและผู้ช่วยมีส่วนช่วยเหลือนักฟุตบอลและโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี 13 คน ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยนายกฯมอบหมายให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนในนามรัฐบาลไปเจรจากับผู้เกี่ยวข้องเพื่อเชิญมาร่วมงาน สำหรับชาวต่างชาติที่มาช่วยในงานนี้ที่เดินทางกลับประเทศไปแล้ว เขาคงไม่กลับมา แต่จะเชิญทางสถานทูตประเทศของเขามาร่วม โดยงานดังกล่าวนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาร่วมด้วย
+++พระรัตนมุนี (ปุณณมี วิสารโท) รักษาการเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ปฏิเสธว่า ครูบาบุญชุ่ม จะไปเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้ 13 หมูป่า ว่า น่าจะเป็นความคลาดเคลื่อนในการให้ข้อมูล พระอุปัชฌาย์ คือ พระภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่เป็นประธานและรับผิดชอบในการบรรพชาอุปสมบท ซึ่งต้องผ่านการอบรมและได้รับมอบตราตั้งจากคณะสงฆ์อย่างเป็นทางการ ซึ่งท่านครูบาบุญชุ่มไม่ได้รับตราตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ จึงไม่สามารถประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทให้ 13 หมูป่าได้
+++ ขณะที่การพบกับสื่อมวลชนก่อนเดินทางกลับบ้าน โค้ชเอกพล เล่าถึงเหตุผลที่เข้าไปในถ้ำหลวงว่าสมาชิกในทีมหลายคนไม่เคยไป จึงมีการพูดคุยกัน และวางโปรแกรมในการเดินทาง ในส่วนตัวเคย เข้าไป พร้อมกับน้องๆอีกหลายคน เคยเข้าไปเลยจุดเนินนมสาว และก็เคยเจอน้ำท่วมบริเวณสามแยก จึงคุยกันว่าการเข้าไปครั้งนี้ต้องรีบออกมาก่อน 17.00น. เพราะต้องไปส่งน้องชนินทร์ หรือน้องไตตั้น วิบูลย์รุ่งเรือง ไปเรียนพิเศษ ยืนยันว่า ไม่มีการเข้าไปฉลองวันเกิดใคร และทุกคนว่ายน้ำเป็น
++++ส่วนการนำน้อง ๆ ออกจากถ้ำ โค้ชเอก บอกว่า ได้ปรึกษากับทีมซีลตลอด เลือกคนที่อยู่บ้านไกลออกก่อน เป็นความสมัครใจของน้องๆ เพื่อที่จะได้ไปบอกคนข้างนอกว่าทุกคนในถ้ำมีทีมซีลดูแล ไม่ต้องห่วง ให้เตรียมกับข้าวไว้ด้วย
+++ความทรงจำของทีมหมูป่าที่มีต่อหน่วยซีล โค้ชเอก บอกว่า มีความรู้สึกผูกพันธ์เหมือนครอบครัวเดียวกัน น้องบางคน บอกว่า พี่ๆทีมซีลที่ชื่อพี่ใบเตย เป็นเหมือนพ่อ เพราะเรียกเด็กๆว่าลูก ส่วนพ.ท.นพ.ภาคย์ พูดถึงความรู้สึกที่ดีที่มีต่อกัน โค้ชเอก เปิดเผยความรู้สึกเศร้าและแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียจ่าเอกสมาน กุนัน หรือจ่าแซมว่า ประทับใจจ่าแซมที่ปกป้องชีวิตหมูป่าทั้ง13คนให้ออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนใหญ่พอรู้ข่าวนี้ก็คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ จึงได้ช่วยกันเขียนไว้อาลัยและขอบคุณจ่าเเซมรวมทั้งครอบครัวด้วย รวมถึงจะบวชหมู่อุทิศส่วนกุศลให้จ่าแซมด้วย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โค้ชเอก บอกว่า จะต้องใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ไม่ประมาท ต้องคิดก่อนทำ มีสติ
+++นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่เด็กๆทุกคนกลับบ้านแล้ว จะมีชุดสหวิชาชีพ มีนายอำเภอ เป็นประธานในการดูแล และรายงานให้รับทราบจนกว่าทุกคนจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเป็นปกติ ส่วนเรื่องที่น้อง 4คนยังไม่ได้สัญชาติไทย อยู่ในระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน
+++ส่วนความคืบหน้า เหตุการณ์เครื่องบินของกองทัพบกประสบอุบัติเหตุตกที่ ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อ 5กรกฎาคม 2561ทำให้มีกำลังพลเสียชีวิต 3นาย และบาดเจ็บ 1 นาย ล่าสุด จ่าสิบเอก ชัชชนันท์ เขื่อนแก้ว ซึ่งได้รับบาดเจ็บได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561 แพทย์ลงความเห็นว่าติดเชื้อในกระแสโลหิต หน่วยต้นสังกัดได้จัดกองทหารเกียรติยศในพิธีส่งร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ ณ ภูมิลำเนา ที่ จ.พะเยา มีกำหนดประกอบพิธีพระราชทานดินฝังศพ ณ คริสตจักรศรีบานเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2561 เบื้องต้นจะได้รับเงินช่วยเหลือตามสิทธิของทางราชการและสินไหมประกันชีวิตจากกองทัพบก ประมาณ 1.8 ล้านบาท กองทัพบกได้ปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น และขอพระราชทานยศสูงขึ้น เลื่อนยศเป็นพันโท
+++เช้าวันนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 19 - 20 กรกฎาคม 2561 เป็นการตอบรับคำเชิญของดาโช เชริง โตบเกย์ (Dasho Tshering Tobgay) เมื่อเดินทางถึงนายกรัฐมนตรีจะเดินต่อไปยังไปยังพระราชวังทาชิโช (Tashichhodzong)เพื่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งราชอาณาจักรภูฎาน จากนั้น จะพบหารือกับนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรภูฏาน ส่วนในช่วงค่ำนายกรัฐมนตรีภูฎานจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี และคณะ
+++ส่วนวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางไปยังเจดีย์อนุสรณ์สถานแห่งชาติ (National Memorial Chorten) เพื่อประกอบพิธีจุดตะเกียงตามธรรมเนียมพื้นเมือง และเยี่ยมชมร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (One Gewog One Product: OGOP) ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย ในเวลา 16.00 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา
+++ไทยและราชอาณาจักรภูฎานสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2532 โดยภูฎานมองไทยเป็นแบบอย่างในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่สอดคล้องกับทฤษฎีความสุขมวลรวมประชาชาติ สำหรับโครงการความร่วมมือที่สำคัญ อาทิ โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการผลิตภัณฑ์ OGOP (One Gewog One Product) ของภูฎาน และโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบทางการเกษตรในพระราชดำริของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เป็นต้นแบบ