การแถลงข่าวก่อนส่งทีมหมูป่าอะคาเดมี่ 13 ชีวิตกลับบ้าน ช่วงเวลา 18.00 น. ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย ที่ห้องประชุมอาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายสุทธิชัย หยุ่น ทำหน้าที่พิธีกร ก่อนที่จะเข้าสู่รายการ นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เล่าว่า เมื่อคืนนี้ ทีมหมูป่าได้จัดกิจกรรมจิตวิทยาอำลาแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ทุกคนมีความเข้มแข็ง สมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ด้านพ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และนักจู่โจมใต้น้ำ ที่มาร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย เล่าให้ฟังด้วยความมั่นใจว่าทั้ง13 คน มีความเข้มแข็งตั้งแต่อยู่ในถ้ำหลวงแล้ว
พญ.พัชนีวรรณ อินต๊ะ หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เล่าว่า จากการดูแลทางจิตและคุยกับหมูป่าทุกคน ประเมินจิตวิทยาหลายอย่างมีความเข้มแข็งทางใจดี ตอบรับความเครียดที่จะเกิดในสังคมได้เท่าคนทั่วๆ ไป ใช้ชีวิตตามปกติได้ ในส่วนตัวมีทั้งความภูมิใจและดีใจที่ได้มาดูแล เพราะมีทีมสาธารณสุขร่วมกันหลายๆ ทีมเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ ขณะเดียวกันก็เครียดเพราะอยากให้ออกมาดีที่สุด เด็กๆไม่ดื้อ เรียบร้อย ในอนาคตหลังกลับบ้านแล้ว อยากฝากทุกคนให้พื้นที่ส่วนตัว ให้ 13คนอยู่กับกิจกรรมที่รัก อยู่กับครอบครัว
คุณอัปษรศรี ธนไพศาล นักจิตวิทยาคลินิกชำนาญพิเศษ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ให้ความมั่นใจว่า ทุกคนมีร่างกายและจิตใจแข็งแรง น้องๆ มีวิธีจะรับมือพอสมควร น้องๆ น่าจะพร้อม และน้องๆ จะเชื่อฟังโค้ชเอกมากที่สุด มีความเข้มแข็ง เจ้าหน้าที่หลายคนก็ได้รับพลังบวกจากน้องๆ
จากนั้นพิธีกรให้ทั้ง13คนแนะนำตัวอีกครั้ง พร้อมแนะนำตัวหน่วยซีลอีก 3 คน พร้อมทั้งถามว่า ใครเป็นคนแรกที่สื่อสารภาษาอังกฤษกับทีมกู้ภัย ด.ช. อดุลย์ สามออน เล่าวินาทีที่เจอกู้ภัยอังกฤษว่า ตอนแรกยังไม่มั่นใจว่าจะใช้เสียงคนหรือไม่ เป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก และตกใจมากที่มีคนมาช่วย กว่าจะคิดคำถามตอบโต้ได้ ก็ใช้เวลาพอสมควร จากนั้น โค้ชเอกพล จันทะวงษ์ เล่าเหตุการณ์ในช่วงที่มีการพูดคุยกับกู้ภัยอังกฤษ
โค้ชเอกพล เล่าถึงเหตุผลที่เข้าไปในถ้ำหลวงว่าสมาชิกในทีมหลายคนไม่เคยไป จึงมีการพูดคุยกัน และวางโปรแกรมในการเดินทาง ในส่วนตัวเคยเข้าไปพร้อมกับน้องๆอีกหลายคน เคยเข้าไปเลยจุดเนินนมสาว และก็เคยเจอน้ำท่วมบริเวณสามแยก จึงคุยกันว่าการเข้าไปครั้งนี้ต้องรีบออกมาก่อน 17.00น. เพราะต้องไปส่งน้องชนินทร์ หรือน้องไตตั้น วิบูลย์รุ่งเรือง ไปเรียนพิเศษ ยืนยันว่า ไม่มีการเข้าไปฉลองวันเกิดใคร และทุกคนว่ายน้ำเป็น จากนั้นโค้ชเอก เล่าวินาทีติดถ้ำหลวง เพราะในช่วงขากลับออกมาเจอน้ำท่วมสูงปิดเส้นทางออก หลายคนพยายามที่จะให้กำลังใจ สู้ต่อไม่ต้องท้อ พยายามตั้งสติ จากนั้นจึงพยายามขุดทรายเพื่อให้น้ำลด แต่น้ำก็ไม่ลด จึงหาที่นอน หวังว่าพรุ่งนี้น้ำจะลด
การดำรงชีวิตในถ้ำ นายพรชัย หรือตี๋ คำหลวง เล่าว่า พยายามเดินหาอาหาร ต้องดื่มน้ำที่ไหลมาจากหินย้อย ผ่านไป 2 วัน เริ่มรู้สึกหิว พยายามใช้ไฟฉายทีละกระบอก ผ่านไป 10 วันนักดำน้ำอังกฤษถึงจะมาช่วย ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือทุกคนมีอาการอ่อนแรง หน้ามืด หิว พยายามไม่นึกถึงกับข้าว กินน้ำให้อิ่ม และสลับกันใช้หินขุดผนังถ้ำเพื่อหาทางออก ก่อนที่จะขึ้นไปขุด ต้องกินน้ำให้อิ่มก่อน
หลังจากที่ทีมดำน้ำอังกฤษไปเจอ มีแผนปฎิบัติการอย่างไรในการนำออกมาจากถ้ำ พ.ท.นพ.ภาคย์ เล่าวินาทีในการช่วยเด็กๆดำน้ำออกไปว่ามีการประชุมทีมด้านนอก และนำเสบียงไปส่งในระหว่างรอการตัดสินใจ ทีมซีล เล่าเสริมว่า พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือหน่วยซีล บอกแล้วว่า ถ้าไม่เจอเด็กไม่กลับ เมื่อเข้าไปพบเด็กๆ ก็ทดสอบกำลังใจก่อน ระหว่างการรอเวลานำออกจากถ้ำ
วิธีการคัดเลือกหมูป่าออกจากถ้ำหลวง โค้ชเอก บอกว่า ได้ปรึกษากับทีมซีลตลอด เลือกคนที่อยู่บ้านไกลออกก่อน เป็นความสมัครใจของน้องๆ เพื่อที่จะได้ไปบอกคนข้างนอกว่าทุกคนในถ้ำมีทีมซีลดูแล ไม่ต้องห่วง ให้เตรียมกับข้าวไว้ด้วย
ความทรงจำของทีมหมูป่าที่มีต่อหน่วยซีล โค้ชเอก บอกว่า มีความรู้สึกผูกพันธ์เหมือนครอบครัวเดียวกัน น้องบางคน บอกว่า พี่ๆทีมซีลที่ชื่อพี่ใบเตย เป็นเหมือนพ่อ เพราะเรียกเด็กๆว่าลูก ส่วนพ.ท.นพ.ภาคย์ พูดถึงความรู้สึกที่ดีที่มีต่อกัน
โค้ชเอก เปิดเผยความรู้สึกเศร้าและแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียจ่าเอกสมาน กุนัน หรือจ่าแซมว่า ประทับใจจ่าแซมที่ปกป้องชีวิตหมูป่าทั้ง13คนให้ออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนใหญ่พอรู้ข่าวนี้ก็คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ จึงได้ช่วยกันเขียนไว้อาลัยและขอบคุณจ่าเเซมรวมทั้งครอบครัวด้วย รวมถึงจะบวชหมู่อุทิศส่วนกุศลให้จ่าแซมด้วย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โค้ชเอก บอกว่า จะต้องใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ไม่ประมาท ต้องคิดก่อนทำ มีสติ นายพรชัย หรือตี๋ คำหลวง บอกว่า จะเป็นคนดีของสังคม ส่วนน้องๆคนอื่นในทีม คิดว่า ประสบการณ์ครั้งนี้ ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด มีความอดทน เข้มแข็งขึ้น ไม่ท้อ เดินหน้าทำตามฝัน คือเรียนจบ และเป็นนักฟุตบอลอาชีพ มีน้องๆ บอกว่า อยากมีอาชีพเพิ่มคือเป็นหน่วยซีล และเหตุการณ์นี้ทำให้เด็กๆหลายคนกล่าวขอโทษพ่อแม่ ที่เป็นเด็กดื้อ ไม่ได้บอกว่าจะไปเที่ยวที่ถ้ำหลวง บอกเพียงแค่ว่าจะไปซ้อมฟุตบอล
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่เด็กๆทุกคนกลับบ้านแล้ว จะมีชุดสหวิชาชีพ มีนายอำเภอ เป็นประธานในการดูแล และรายงานให้รับทราบจนกว่าทุกคนจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเป็นปกติ ส่วนเรื่องที่น้อง 4คนยังไม่ได้สัญชาติไทย อยู่ในระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน
หลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ทั้ง13 คน ก็จะได้กลับบ้านแล้ว เด็กๆ ได้เปิดเผยสิ่งแรกที่จะทำหลังกลับบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่อยากกิน เช่น ผัดกระเพรา โจ๊ก เป็นต้น