ทันสถานการณ์โลก:ออสเตรเลียมอบรางวัลเกียรติยศให้แพทย์ช่วยทีมหมูป่า/นายกฯเมย์ชนะลงมติเบร็กซิส/ราคาน้ำมันทรงตรง

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++บีบีซีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า รัฐบาลจะจัดพิธีมอบรางวัลเกียรติยศเพื่อยศยกย่องนายแพทย์ ริชาร์ด แฮร์ริส ซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์ และนายแพทย์เครก ชาลเลน ซึ่งเป็นสัตวแพทย์ หลังประสบความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจช่วยนำ 12 นักเตะเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอะคาเดมี จ.เชียงราย ออกมาจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยกย่องนายแพทย์ทั้งสองว่าเป็นตัวอย่างในด้านการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม นับว่าเป็นค่านิยมที่พลเมืองออสเตรเลียทุกคนควรจะยึดถือเป็นแบบอย่างและควรจะได้รับยกย่องให้เป็นวีระบุรุษ ทำงานอย่างมืออาชีพ มีวินัยและร่วมกันทำงานเป็นทีม

+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯชี้ แจงคำพูดของตัวเอง ระหว่างการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ว่าเป็นคำพูดผิดที่บอกว่า รัสเซีย ไม่ได้แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐกลายเป็นการตำหนิหัวหน้าข่าวกรองของสหรัฐฯเอง ผู้สื่อข่าวใช้ท่าทีของทรัมป์ระหว่างชี้แจงเรื่องนี้ก่อนประชุมกับเหล่าส.ส.ของรีพับลิกัน ว่าเงอะๆงะๆ “ในประโยคหลักของคำพูดของผม ผมบอกว่า จะ แทนที่จะเป็น จะไม่ทั้งๆที่ ประโยชน์ที่ควรจะเป็นคือ ผมไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมรัสเซียจะไม่ทำแบบนั้น มันเป็นรูปแบบของการปฏิเสธซ้อน” ผู้นำสหรัฐฯยังย้ำในสิ่งที่เคยพูดว่าเขามีความเชื่อมั่นและสนับสนุนหน่วยงานข่าวกรองที่ยอดเยี่ยมของ สหรัฐอเมริกาอย่างเต็มที่ ยอมรับผลสรุปของประชาคมข่าวกรองที่สรุปว่าการแทรกแซงศึกเลือกตั้งปี2016โดยรัสเซียนั้นเกิดขึ้นจริง

+++นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของสหราชอาณาจักรชนะการลงมติของที่ประชุมสส.อย่างหวุดหวิด 319 ต่อ 285 เสียง แม้ว่าสส.หลายคนในพรรคอนุรักษ์นิยม พรรครัฐบาล โดยเฉพาะกลุ่มที่มีแนวคิดสนับสนุนเรื่องการถอนตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)หรือเบร็กซิต คัดค้านข้อเสนอเรื่องการรวมเนื้อหาของร่างกฎหมายเบร็กซิตไว้ ในร่างพระราชบัญญัติภาษีศุลกากร(หรือกฏหมายการค้าข้ามชายแดน)ซึ่งจัดทำขึ้น เพื่อผลักดันให้นโยบายภาษีศุลกากรของสหราชอาณาจักรสามารถจะใช้ดำเนินการได้อย่างอิสระหลังการถอนตัวออกจากกลุ่มอียูในช่วงต้นปีหน้า

+++ปัญหาขัดแย้งในประเด็นนี้ส่งผลให้รัฐมนตรีลาออก 2 คนเมื่อสัปดาห์ก่อนคือ นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีกิจการเบร็กซิตและนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศ ล่าสุด นายกูโต เบ็บบ์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมของสหราชอาณาจักรประกาศลาออก เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลยอมแก้ไขเนื้อหาของร่างกฏหมายเบร็กซิตฉบับเดิม นับว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณอันตรายของรัฐบาลของนางเมย์ ซึ่งขณะนี้พบกับศึกสองด้านคือกลุ่มสส.ที่สนับสนุนเบร็กซิตกับฝ่ายที่สนับสนุนยุโรปภายในพรรครัฐบาล

+++นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรีแห่งยุโรป และนายฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ลงนามข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นซึ่งนับว่ามีมูลค่าสูงสุดเท่าที่กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)เคยทำมา และเป็นการแสดงจุดยืนไปทิศทางเดียวกัน ระบุว่าการลงนามข้อตกลงกับค้าอียู-ญี่ปุ่นในวันนี้มีขึ้นหลังทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้าเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ที่สำคัญคือข้อตกลงนี้จะเปิดพื้นที่ทางการค้าเสรี คิดเป็นสัดส่วนเกือบหนึ่งใน 3 ของจีดีพีของโลก

+++ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในวันอังคาร สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 66.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 72.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคารปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 55.53 จุด ปิดที่ 25,119.89 จุด นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากความเห็นของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯที่เข้าให้ปากคำต่อสภาคองเกรส โดยบอกว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของอเมริกายังคงแข็งแกร่ง แม้ยอมรับเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อยาวนานจากความขัดแย้งทางการค้า

+++ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(17ก.ค.) ปิดลบ 3 วันติด จากแรงกดดันของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลัง พาวเวลล์ ย้ำเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,227.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++บีบีซีรายงานอ้างสื่อของทางการเกาหลีเหนือว่านายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งไปตรวจราชการในจังหวัดฮัมกยองเหนือ ใกล้ชายแดนประเทศจีน ได้วิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ว่าล่าช้าในการจัดทำโครงการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งคืบหน้าไปเพียงร้อยละ 70 แม้ว่าจะเริ่มงานก่อสร้างมาแล้ว 17 ปี และแสดงความไม่พอใจที่เห็นอ่างน้ำอุ่นของสถานพักตากอากาศแห่งหนึ่ง ไม่มีสุขอนามัยและสกปรกมากราวกับตู้เลี้ยงปลาแตกต่างจากครั้งก่อนๆซึ่งผู้นำเกาหลีเหนือมักจะชื่นชมเจ้าหน้าที่อยู่เสมอ ระหว่างการไปตรวจเยี่ยมโรงงานต่างๆในชนบทที่ผ่านมาเกาหลีเหนือเร่งผลักดันโครงการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

+++นายเทพ นีธา เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาระบุว่าในประเทศที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย การเลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้นการรณรงค์ให้ประชาชนประท้วงโดยการไม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือขัดขวางการเลือกตั้งในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้จะถือว่ามีความผิดทางอาญา พร้อมทั้งเริ่มขั้นตอนการดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับกลุ่มคนที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว หลายฝ่ายคาดว่าพรรคพลังประชาชนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน จะชนะการเลือกตั้งปลายเดือนนี้ คาดว่าเขาจะครองอำนาจต่อไปหลังบริหารประเทศมาแล้ว 33 ปี เนื่องจากไม่มีคู่แข่งทางการเมืองที่สูสีหลังศาลมีมติให้ยุบพรรคแกนนำฝ่ายค้านคือพรรคกู้ชาติกัมพูชาเมื่อปีที่แล้ว