ชาวสกอตแลนด์มีมติเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรต่อไป

ชาวสกอตแลนด์ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์การลงประชามติ มีมติคัดค้านการแยกตัวเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักร โดยในทันทีที่หน่วยลงคะแนนทั้ง 2,608 แห่งปิดการลงคะแนน เจ้าหน้าที่ก็นำหีบบัตรทั้งหมดไปที่เขตเลือกตั้ง 32 แห่งตามแขวงการปกครองของสกอตแลนด์ และนับรวมกับผู้ที่ลงคะแนนทางไปรษณีย์ แล้วรายงานผลคะแนนเข้าส่วนกลาง  ซึ่งนางแมรี พิตเคธลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ ที่รอยัล ไฮแลนด์ เซนเตอร์ ชานกรุงเอดินเบอระ จะเป็นผู้ประกาศผล

โดยผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ 31 เขตจาก 32 เขตมีผู้ที่ออกเสียงคัดค้านการแยกประเทศ 1,914,187 เสียงหรือร้อยละ 55 และมีผู้ที่ออกเสียงสนับสนุน 1,539,920 เสียงหรือร้อยละ 45  โดยฝ่ายที่ชนะจะต้องมีคะแนนมากกว่า 1,852,828 เสียง

ทั้งนี้ กลาสโกว์ เมืองใหญ่ที่สุดของสกอตแลนด์และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ มีประชาชนที่สนับสนุนการเป็นเอกราชมากถึง 194,779 เสียงส่วนผู้ที่คัดค้านมี 169,347 เสียง ส่วนที่ดันดี , เวสต์ ดันบาร์ตันไชร์ และ นอร์ธ ลานาร์คไชร์ ออกเสียงสนับสนุนให้แยกประเทศ  แต่ที่อะเบอร์ดีน ผู้ที่ออกเสียงคัดค้านมีจำนวนมากกว่าอีกฝ่ายมากกว่า 20,000 เสียงซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกลุ่มผู้คัดค้านการแยกประเทศ

ด้านนายอเล็ก ซัลมอนด์ นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ผู้นำรณรงค์ในการแยกประเทศ กล่าวแถลงยอมรับผลการลงประชามติ และว่าการที่มีผู้ใช้สิทธิ์มากถึงร้อยละ 86 นับเป็นการใช้สิทธิ์ตามระบอบประชาธิปไตยครั้งใหญ่ที่สุดของโลกประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งหรือการลงประชามติ  และขอขอบคุณผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการแยกประเทศจำนวน 1,600,000 เสียง ซึ่งจากผลของการลงประชามติ สกอตแลนด์จะเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรในการผลักดันให้ประเทศนี้ก้าวไปข้างหน้าต่อไป

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เห็นว่า การที่กลุ่มผู้ออกเสียงไม่เห็นด้วยมีจำนวนน้อยกว่าในการสำรวจทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งมีคะแนนน้อยกว่าฝ่ายคัดค้านมากกว่า 3 จุดจะทำให้กลุ่มรณรงค์ให้แยกตัวเป็นเอกราชรู้สึกผิดหวัง หลังจากที่มีการรณรงค์มานาน 2 ปี ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่าตำรวจสอบสวนเหตุทุจริตในการใช้สิทธิ์ ที่กลาสโกว์ กับมีการสอบสวนเหตุสัญญาณเตือนไฟดังขึ้นที่เขตเลือกตั้งดันดี ทำให้การนับคะแนนล่าช้าออกไป

 ...F163..