ที่ประชุมสนช.รับหลักการ 5 ร่างพรบ.ขึ้นเงินเดือนศาล ตุลาการ องค์กรอิสระ

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในช่วงบ่ายวันนี้ ที่ประชุมยังมีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอีก 7 ฉบับ โดย 5 จาก 7 ฉบับเป็นร่างพระราชบัญญัติที่ถูกเสนอพร้อมกันในคราวเดียวโดยคณะรัฐมนตรี(ครม.) นาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนครม. ชี้แจงการเสนอร่างพระราชบัญญัติ 5 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานยุติธรรม ทั้งเรื่องระเบียบ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง  ทั้ง ฝ่ายตุลาการ ศาลปกครอง  และข้าราชการอัยการ จึงเสนอพร้อมกัน จึงเสนอพร้อมกันในวาระเดียว โดยหลักการสาระสำคัญ คือ กำหนดให้รองประธานศาลฎีกา, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ, รองประธานศาลปกครองสูงสุด, หัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด, อธิบดีศาลปกครองชั้นต้น และอัยการผู้ช่วยได้รับเงินเดือนและเงินเดือนประจำตำแหน่งเพิ่มขึ้น แต่ให้ค่าครองชีพชั่วคราวที่ได้รับมาก่อนหน้านี้มีผลสิ้นสุดลงนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

นอกจากนี้ยังบัญญัติให้มีการปรับปรุงเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของประธานและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนให้สอดคล้องกับศาลรัฐธรรมนูญที่มีการปรับเพิ่มขึ้นเงินเดือนเช่นกัน ตลอดจนบัญญัติให้เพิ่มเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระอื่นๆ ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต., ผู้ตรวจการแผ่นดิน, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) และผู้ตรวจเงินแผ่นดิน

ส่วนที่มีข่าวออกทำนองว่าการขึ้นเงินเดือนของผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรต่างๆนี้เป็นการขึ้นทั้งแผง นาย วิษณุ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องจริง สังคมกำลังเข้าใจผิด เพราะแม้จะมีการปรับขึ้นค่าตอบแทนเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่งจริงแต่ก็ไม่ใช่การปรับขึ้นทั้งหมด

ส่วน เงินเดือนตุลาการศาลทหารนายวิษณุ ย้ำว่า ไม่ได้ถูกปรับขึ้นในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากเงินเดือนตุลาการศาลทหาร มีข้อยกเว้นให้กระทรวงกลาโหมสามารถไปจัดทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลัง เพื่อขออนุมัติขึ้นเงินเดือนได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องตราขึ้นเป็นพระราชบัญญัติเสนอมาสนช. เหมือนองค์กรอื่นๆนี้ คาดว่าอีกไม่นานกระทรวงกลาโหมจะเสนอเรื่องไปกระทรวงการคลังได้  หลังจากนั้น ที่ประชุมสนช.ได้ลงมติในวาระที่ 1 รับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติทั้ง 5 ฉบับไว้พิจารณาด้วยมติเอกฉันท์ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ ต่อไป