ป.ป.ช.ขอข้อมูลซีเรียลนัมเบอร์นาฬิกาหรูรองประวิตร/สนช.พิจารณากกต.ชุดใหม่ 12ก.ค./FAA ตรวจสอบซ้ำมาตรฐานการบินเดือนก.ย.

11 กรกฎาคม 2561, 08:44น.


+++การประชุมกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พิจารณาเรื่องการครอบครองนาฬิกาหรูของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คณะทำงานฯได้สอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีครบถ้วนแล้ว แต่จะขอให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ทำหนังสือไปยังบริษัทแม่ที่อยู่ต่างประเทศที่เป็นผู้ผลิตนาฬิกาหรูเรือนต่าง ๆเพื่อขอข้อมูลหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์นาฬิกา ว่ามีใครเป็นผู้ซื้อนาฬิกาตัวจริงเนื่องจากบริษัทตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยไม่ยอมให้ข้อมูลเรื่องซีเรียลนัมเบอร์ว่าใครเป็นผู้ครอบครองที่แท้จริงทำให้ ป.ป.ช.ยังไม่สามารถพิจารณาว่าจะตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนในเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่



+++ระหว่างวันที่ 13-27ก.ค. สำนักงานป.ป.ช.เปิดเผยการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) 08.30-16.30 น.



+++คณะรัฐมนนตรี(ครม.) เปลี่ยนสถานที่ประชุมนอกสถานที่ 23-24 ก.ค. จากจ.เชียงราย และดูงานในพื้นที่ จ.พะเยา เปลี่ยนเป็นที่ จ.อุบลราชธานี และดูงานในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ มีโอกาสที่นายกฯจะได้ไปร่วมงานแห่เทียนพรรษาที่ จ.อุบลราชธานี ด้วย



+++ ในวันพรุ่งนี้ สนช.จะให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ชุดใหม่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประกอบด้วย นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ อาจารย์ประจำสาขาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอม เกล้าธนบุรี นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายอิทธิพร บุญประคอง อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัด และ นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา นายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ผู้ที่ได้รับความเห็นชอบนั้นต้องได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 123 เสียง และหากมีผู้ผ่านความเห็นชอบ 5 คนขึ้นไปก็ถือเป็นองค์ประชุมที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้



+++สำหรับรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกกต. 6 คนไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ที่น่าสนใจคือ นายสมชาย ซึ่งพบว่ามีปัญหาเรื่องการถูกฟ้องร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนทำให้เกิดความเสียหายแก่สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ในสมัยที่ดำรงตำแห่งเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ทำให้สมาชิกสนช.ถกเถียงกันว่านายสมชายยังถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็น กกต.หรือไม่ ขณะที่ สนช.อีกส่วนมองว่าควรให้โอกาสนายสมชาย เพราะขณะนี้นายสมชายยังเป็นเพียงแค่ผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้นยังไม่มีคำพิพากษาศาลเป็นที่สิ้นสุด จึงถือว่ายังไม่มีความผิด



+++วงการเมืองเซอร์ไพร์สและแสดงความยินดีกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 86 ปี ที่แต่งงานใหม่กับน.ส.อรทัย สรการ ยงใจยุทธ โดยได้หย่าขาดกับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ อดีตภริยาอย่างเป็นทางการแล้ว นายกฯ ระบุว่า  ขอให้โชคดี เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะเป็นเหมือน พล.อ.ชวลิตบ้างหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินหันหลังให้ทันที พร้อมกล่าวตอบว่า คุณพูดอะไรที่มันอันตรายขนาดนี้



+++เรื่องเศรษฐกิจ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 79 เซ็นต์ ปิดที่ 78.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหตุผละงานประท้วงของคนงานน้ำมันในนอร์เวย์ ส่งผลให้กำลังผลิตน้ำมันดิบของประเทศลดลง 23,000 บาร์เรลต่อวันและก๊าซธรรมชาติเหลวลดลง 3,500 บาร์เรลต่อวัน ส่วนเหตุประท้วงในกาบอง คาดหมายว่า จะส่งผลกระทบต่อกำลังผลิต 54,000 บาร์เรลต่อวัน



+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก 4 วันติด ท่ามกลางความคาดหมายว่ารายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆในไตรมาส 2 ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่เร็วๆนี้ จะออกมาแข็งแกร่ง ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 143.07 จุด ปิดที่ 24,919.66 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.67 จุด ปิดที่ 2,793.84 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 3.00 จุด ปิดที่ 7,759.20 จุด ประมาณการกันว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทต่างๆจะมีรายได้เพิ่มเติมร้อยละ 20 หรือมากกว่านั้น หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯและประโยชน์จากมาตรการลดภาษีครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว การคาดหมายดังกล่าวช่วยดึงความสนใจของนักลงทุนให้มองข้ามความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน รวมถึงสหรัฐฯกับพันธมิตรการค้าอื่นๆ

+++ราคาทองคำ ปรับลด หลังดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,255.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++ระหว่างวันที่ 17-21 ก.ค. 2561 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะนำคณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วม ระดับสูงไทย-ญี่ปุ่นครั้งที่ 4 นายสมคิด จะเข้าร่วมกิจกรรมชักจูงการลงทุน ณ จ.ไอจิ และจ.มิเอะ ซึ่งตั้งอยู่ภาคกลางของญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเอสเอ็มอีของทั้ง 2 จังหวัดสนใจ มาลงทุนในอีอีซี สำหรับบริษัทเป้าหมายที่นายสมคิดจะหารือใน 2 จังหวัด คือ ผู้ผลิตชิ้นส่วน ยานยนต์และอากาศยาน ผู้ผลิตอาหารทางการแพทย์ ผู้ผลิตเครื่องจักร และผู้ผลิต หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมทั้งจะร่วม สัมมนา "Thailand Taking off to New Heights"ที่เมืองนาโกยา เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายประเทศไทย 4.0 และความคืบหน้าการดำเนินในอีอีซี



+++นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (เอฟเอเอ) ลดระดับมาตรฐานความปลอดภัย ของไทยจากระดับ 1 (Category 1) เป็นระดับ 2 (Category 2) ส่งผลให้สายการบินของไทยไม่สามารถทำการบินเข้าสหรัฐฯได้  กพท.แก้ข้อบกพร่องที่เอฟเอเอแนะนำมาตลอด ส่วนใหญ่เป็นข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญด้านการบิน 33 ข้อ เหมือนองค์การ การบินพลเรือนระหว่างประเทศ เช่น การออกใบรับรองผู้ดำเนินอากาศ รวมทั้ง การออกใบอนุญาตนักบินที่ไม่ได้มาตรฐาน เอฟเอเอ มองว่า ผู้ตรวจสอบการให้ใบอนุญาตนักบินของไทยมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน เช่น ผู้ตรวจสอบไม่มี ใบอนุญาตในประเภทเครื่องบินที่ไปตรวจ รวมทั้งจำนวนผู้ตรวจสอบไม่เพียงพอ  เดือนพ.ค.ส่งรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาให้เอฟเอเอ และขอให้มาตรวจสอบซ้ำเพื่ออนุมัติเลื่อนจากระดับ ซึ่งเอฟเอเอจะมาตรวจสอบซ้ำเดือน ก.ย.นี้ โดยจะตรวจเบื้องต้นแบบพรี ออดิท และถ้าตรวจแล้วไม่พบเรื่อง ต้องแก้ไขเพิ่มเติม จะมาตรวจสอบจริง



+++นายจุฬา กล่าวว่า หากพบว่ายังมีเรื่องต้องแก้ไขก็ต้องรอจนกว่ากพท.จะแก้ไขแล้วเสร็จ แต่มั่นใจว่าการตรวจ พรีออดิทจะผ่านไปได้ และหวังว่าจะมีการพิจารณาอนุมัติเลื่อนระดับมาสู่ระดับ 1 ภายในปีนี้ เพื่อให้สายการบินของไทยเพิ่มเส้นทางบินเข้าไปสหรัฐฯได้ทันตารางบิน ฤดูร้อนปี 2562



+++ส่วนความคืบหน้าการทบทวนและออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (Re - AOC) ตามมาตรฐานองค์กรการบินระหว่างประเทศ ขณะนี้เหลือ 2 สายการบิน จาก 20 สายการบินที่จดทะเบียนในไทย โดยกำลังดำเนินการขั้นที่ 4 ทำการตรวจสอบภาคปฏิบัติ คาดว่า จะดำเนินการเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ ทำให้ กพท.ออกใบรับรองให้สายการบินที่ทำการบินระหว่างประเทศได้ครบ 20 สายการบิน



แฟ้มภาพ 



         



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X