เย็นวันนี้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน และทหารจากกองพันทหารราบที่3 กรมทหารราบที่9 ลงพื้นที่ตรวจรถตู้ และรถแท๊กซี่รับจ้างสาธารณะ ที่บริเวณเลยป้ายรถเมย์ หน้าห้างสรรพสินค้า พาต้า ปิ่นเกล้า
นายสมชาติ เศรษฐเศวต เจ้าพนักงานชำนาญงาน กองตรวจการ กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เย็นวันนี้ได้ลงจุดตรวจรถแท๊กซี่ และรถตู้รับจ้างสาธารณะ ที่เข่าข่ายผิดกฎหมาย โดยรถตู้รับจ้างที่รอผ่อนผันการขึ้นทะเบียน ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนสีขาว จะต้องติดสติ๊กเกอร์สีส้ม ที่ระบุเลขทะเบียนรถ และเส้นทางการวิ่งที่ชัดเจน
ส่วนรถแท๊กซี่จะต้องไม่ปฎิเสธผู้โดยสาร หรือแต่งกายให้ถูกระเบียบเป็นต้น โดยตรงจุดนี้ ที่ข้างห้างสรรพสินค้า พาต้า ปิ่นเกล้า ยังเป็นจุดจอดวินรถตู้ที่จะเดินทางไป มหาชัย ,โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ,กระทุ่งแบน ,บางบัวทอง และพุทธมณฑลสาย 4 โดยทางเจ้าหน้าที่ จะมีการสุ่มตรวจเช็คอุปกรณ์ความปลอดภัย ภายในรถที่จอด รอรับผู้โดยสาร ว่ามีอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ที่ทุบกระจกเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ,ถังดับเพลิงขนาดเล็ก และเข็มขัดนิรภัย ที่ต้องมีในทุกที่นั่งหรือไม่ ก่อนที่จะให้บริการแก่ผู้โดยสาร เพื่อเป็นการเช็คความปลอดภัยก่อนออกเดินทาง
นายสมชาติ กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่ตรวจในเย็นวันนี้พบเพียงรถแท๊กซี่ ที่ใช้รถป้ายแดง ที่ยังไม่มีการจดทะเบียน กับทางกรมการขนส่งฯ มาวิ่งรับส่งผู้โดยสารเท่านั้น เนื่องเป็นการป้องกันหากเกิดเหตุ จะได้ตรวจเช็ครถรับจ้างที่ให้บริการได้ทันที
ด้าน ร.อ.กณัฐพงศ์ โพธิ์สุข เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารราบที่3 กรมทหารราบที่9 ยังเล่าให้ฟังว่า หากในเวลาเร่งด่วน วินรถตู้รับจ้างมีจำนวนรถที่ให้บริการไม่เพียงพอต่อปริมาณผู้โดยสาร ก็จะมีการประสานไปยัง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อที่จะจัดรถเมย์ปรับอากาศมารับผู้โดยสาร ที่ตกค้างอยู่ ภายในเวลา 30นาที เพื่อวิ่งส่งผู้โดยสารตามเส้นทางที่รถตู้ขาด โดยคิดค่าบริการ 20บาทตลอดสาย
โดยสภาพการจราจรหน้าหน้าสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้าในเย็นวันนี้ ฝั่งที่วิ่งไปทางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าการจราจรคล่องตัว ส่วนฝั่งกับกันที่มุ่งหน้าไปทางห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า มีปริมาณรถหนาแน่น การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้า