นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหารือร่วมกับนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์จิรพันธ์ เต้พันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต, พลตำรวจตรีธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องการจัดทำ One Stop Service ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operation Center : EOC) โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
นายแพทย์เจษฎา กล่าวภายหลังการประชุมว่า จุดนี้จะเป็นจุดในการประสานงานเบ็ดเสร็จทุกเรื่อง และจะจัดบริการทั้งในส่วนของล่ามแปลภาษา การอำนวยความสะดวกเรื่องรถ ให้ญาติของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิตรวมถึงขั้นตอนการพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อให้ญาติที่มาติดต่อเรื่องการพิสูจน์ศพ ได้ซ้อมทำความเข้าใจกันทุกภาคส่วน
การพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้ที่เสียชีวิต ได้มีทีมนิติเวชจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย แพทย์นิติเวชทันตแพทย์ ช่างภาพทางการแพทย์ จำนวน 4 ทีม ซึ่งสามารถตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ 4 ราย ต่อครึ่งชั่วโมง ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้เร็ว สำหรับในส่วนผู้เสียชีวิต 33 ราย ที่ได้พิสูจน์ไปเบื้องต้นแล้ว อาจจะมีการพิสูจน์เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ซึ่งใช้เวลาไม่นาน คาดว่า วันนี้ จะสามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ได้หมดสำหรับศพใหม่ที่เข้ามา ก็สามารถดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ในวันนี้
ขณะนี้ การเก็บรักษาศพ ได้มีการส่งร่างผู้เสียชีวิตกระจายไปเก็บรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ตด้วย เนื่องจากสถานที่เก็บศพที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ไม่เพียงพอ ขณะนี้ ได้มีการบริจาคตู้คอนเทนเนอร์มา 2 ตู้ ซึ่งเป็นตู้ที่ใช้เก็บรักษาศพได้ เมื่อได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำศพเก็บรักษาที่ตู้นี้ก็จะสามารถเก็บรักษาศพได้เพียงพอ ขณะนี้ ไม่มีปัญหาในเรื่องของการเก็บรักษาศพ
สำหรับในส่วนของการจัดระบบการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต วันนี้ ได้มีการจัดระบบใหม่เป็นในส่วนที่ให้ข้อมูลเบื้องต้น โดยจะมีล่าม และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ที่จะช่วยดำเนินการดูแลและดำเนินการให้ข้อมูลเบื้องต้นและคัดกรอง หากว่าเป็นญาติของผู้ป่วยหรือเสียชีวิต หากพบแล้วจะนำไปสู่อีกจุดหนึ่ง ซึ่งจะเป็นจุดที่จะมีการพิสูจน์เบื้องต้นเกี่ยวกับญาติ หลังจากนั้น จะดำเนินการต่อไปที่เรื่องการจัดทำเอกสารต่างๆ ซึ่งในวันนี้ ได้มีการจัดขั้นตอนให้ชัดเจน มีการจัดล่ามในการแปล ซึ่งจะต้องมีการประชุมล่ามเพื่อซักซ้อมความเข้าใจให้ตรงกัน เกี่ยวกับการสื่อสาร รวมถึงเรื่องสถานที่ต่างๆ ว่าจะต้องดำเนินการในจุดใดบ้าง รวมถึงเรื่องการอำนวยความสะดวกในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถนำส่งระหว่างโรงแรม โรงพยาบาล สถานกงสุล และสนามบิน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดเตรียมรถไว้ให้ทั้งหมด ขณะเดียวกันญาติที่ยังอยู่ระหว่างการติดต่อที่โรงพยาบาลๆก็จะมีการจัดเตรียมอาหารและอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เรือฟินิกซ์ และเรือเซเรเนต้า ล่ม ซึ่งได้พักรักษาตัวที่อยู่ที่พยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 3 ราย โดยได้สอบถามอาการของผู้บาดเจ็บ พร้อมนำความห่วงใยจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกระทรวงสาธารณสุข พร้อมที่จะดูแลอย่างเต็มที่ในทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าว:อชัถยา ชื่นนิรันดร์
CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์จ.ภูเก็ต