สถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงมานากัว ประเทศนิการากัว ออกแถลงการณ์สั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งไม่มีกิจจำเป็น เดินทางออกจากนิการากัว หลังเกิดกระแสลุกฮือต่อต้านรัฐบาลบานปลายกลายเป็นเหตุรุนแรงกระทั่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 230 คนตั้งแต่เดือนเมษายน แถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐฯ ยังกระตุ้นให้พลเมืองชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการชุมนุมประท้วงและทบทวนแผนการเดินทางไปนิการากัว เนื่องจากปัญหาความไม่สงบ อาชญากรรม และข้อจำกัดด้านสาธารณสุข โดยกองกำลังพลร่มนิการากัว ซึ่งแต่งกายในชุดนอกเครื่องแบบจำนวนนับร้อยได้ใช้อาวุธหนักปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงในหลายพื้นที่ ซึ่งเรียกร้องการเดินหน้าการเลือกตั้ง มิฉะนั้น ประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตกา จะต้องลาออก โดยกลุ่มผู้ประท้วงกล่าวหาว่า ผู้นำนิการากัวใช้ระบบเผด็จการกับรองประธานาธิบดีโรซาริโอ มูริลโล และไม่เว้นแต่ภริยา
นอกจากนี้ ยังวางแผนจัดการเดินขบวนอีกครั้งในวันพฤหัสบดีหน้า หลังจัดการประท้วงตลอด 24 ชม.วานนี้ ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้ญาติของเจ้าหน้าที่การทูตเดินทางออกไปชุดหนึ่งแล้ว และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังขึ้นบัญชีดำทางการเงินผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินิการากัว และเลขาธิการทำเนียบนายกเทศมนตรีกรุงมานากัว เนื่องจากมีบทบาทในการสังหารและทุบตีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล นอกจากนี้ ยังขึ้นบัญชีคว่ำบาตรนายโคเซ่ ฟรานซิสโก โลเปซ เซ็นเตโน ผู้บริหารบริษัทน้ำมัน เนื่องจากมีพฤติกรรมคอร์รัปชันบริษัท 2 แห่งที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาล เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและผู้นำนิการากัว
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters