มุมมองของนักวิชาการ เกี่ยวกับเหตุการณ์โค้ชและเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี่ รวม 13 คน หายตัวไปภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยในการจัดเสวนาเรื่องวิเคราะห์ปรากฏการณ์ถ้ำหลวงจากหลากมิติ
ผศ.ดร.สมบัติ อยู่เมือง ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เสนอความคิดเห็นว่า ให้ทีมสำรวจในถ้ำ เดินต่อไปทางทิศใต้ โดยอาศัยแผนที่นายมาร์ติน เอลลิส นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ที่เคยสำรวจและเขียนแผนที่ถ้ำหลวงมาใช้ประกอบ เพื่อหาพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งอาจเป็นทางเข้าโดยธรรมชาติ หรือโถงใหญ่ แทนการอยู่กับที่เพราะเกรงว่าอากาศที่มีจะหมดไปหรือน้อยลง
lส่วนการนำถังอากาศเข้าไปด้านในถ้ำต้องใช้เวลาไปกลับ ถึง 10 ชั่วโมง ซึ่งเรื่องนี้ได้เสนอต่อผู้บัญชาการเหตุการณ์ไปแล้วขึ้นอยู่กับการพิจารณาต่อไป ขณะเดียวกันยังกล่าวว่า หากสามารถเจอห้องโถงภายในถ้ำเพิ่มเติม และมีการนำลูกบอลเข้าไปภายในให้เด็กๆ ได้ผ่อนคลายในระหว่างรอการช่วยเหลือเพื่อออกมาจากถ้ำ ถือเป็นการยกระดับสภาพจิตใจที่ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากไม่ได้มีการระบายใดๆออกมา ก็จะเกิดความเจ็บปวดภายใน ทั้งเด็กและโค้ช ส่วนการเจาะถ้ำเชื่อว่าสามารถทำได้ แต่ต้องใช้เวลา และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต้องผ่านชั้นหินปูนหลายร้อยเมตร ส่วนการแนะนำความช่วยเหลือต่างๆ เชื่อว่าทีมผู้บัญชาการเหตุการณ์ทราบดีอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีความยากลำบากในการควบคุมคน และควบคุมพื้นที่ รวมถึงมองว่าทุกอย่างต้องเป็นแผนที่ แบบจำลอง ขณะเดียวกันยังได้ชื่นชมทีมผู้บัญชาการเหตุการณ์ว่าปัจจุบันได้มีการให้ข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น ถ้าเทียบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติในอดีต
ส่วนการสื่อสารด้านวิทยาศาสตร์ถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยต้องไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยสูญเสียมากมายในเหตุภัยพิบัติ ซึ่ง เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็จะเป็นกรณีศึกษาระดับโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นและมีความยากลำบากอย่างมาก