สรุปข่าวเย็นนี้:น้ำมันขึ้นราคา40สตางค์พรุ่งนี้/ผู้ว่าฯเชียงรายคนใหม่รับตำแหน่ง/เร่งค้นหาผู้สูญหายเรือล่ม

สรุปข่าว19.30 น.

+++วันนี้ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย คนใหม่ได้เดินทางจาก จ.พะเยา เพื่อไปรับตำแหน่งใหม่ที่ จ.เชียงราย โดยเริ่มต้นด้วยการเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาตามปกติ นายประจญ กล่าวว่า พร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อพัฒนาจังหวัดเชียงราย และในส่วนของกรณีการช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สายนั้น พบว่าในปัจจุบันทางกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งให้นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ อีกท่านทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานดังกล่าวอยู่ ดังนั้น ตนจึงดูในภาพรวมและพร้อมให้การสนับสนุนปฏิบัติการดังกล่าวอย่างเต็มที่

ในการปฏิบัติการดังกล่าวผมยังคงให้นายภาสกร บุญญลักษฒ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เข้าไปทำหน้าที่ที่ศูนย์อำนวยการดังกล่าวอยู่เพื่อให้การปฏิบัติการสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะยังคงมีอีกหลายเรื่องที่ต้องให้ดำเนินการอยู่ ซึ่งจังหวัดพร้อมจะสนับสนุนโดยตนจะทำงานให้สุดฝีมือเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับภาพรวมของ จ.เชียงราย ต่อไป

+++พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางไปยัง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง จ.ภูเก็ต โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับมอบหมายให้มาช่วยเป็นกำลังสนับสนุนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ก็ขอให้การปฏิบัติภารกิจเป็นด้วยความเรียบร้อย 

+++กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาห้ามเรือโดยสารออกจากฝั่งกรณีคลื่นลมแรง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ และให้การปฏิบัติการสั่งห้ามเรือโดยสารออกจากฝั่ง กรณีมีมรสุมคลื่นลมแรงตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

+++นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อประชุมและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยขณะนี้ตามที่ได้รับข้อมูลเบื้องต้น นักท่องเที่ยวจีนที่ประสบอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว FIT ที่ซื้อแพคเกจทัวร์จาก OTA โดยมีนักท่องเที่ยวที่มาจากมณฑลเจียงซู เจ้อเจียง กวางตุ้ง เหลียวหนิง และเหอหนาน โดยกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ได้อำนวยความสะดวกให้กับสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่อย่างเต็มความสามารถ ในการค้นหา และกู้ภัย ผู้สูญหาย รวมถึงการให้การรักษาพยาบาล และปลอบขวัญผู้บาดเจ็บ ตลอดจน การดำเนินการต่างๆ หลังเหตุการณ์ อย่างเต็มที่

สำหรับกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เบื้องต้นถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขกองทุนฯ จะชดเชย กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา ทุพพลภาพ รายละไม่เกิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลทางการแพทย์ ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 500,000 บาท โดยจะเร่งให้มีการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาภายในวันจันทร์ที่ 9 ก.ค.นี้ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับค่าชดเชยจาก ประกันเรือ และประกันจากบริษัทนำเที่ยว 

+++ขณะเดียวกันสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้เขต 2 ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเรือฟินิกซ์มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวในนามของบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด เลขที่ใบอนุญาต 34/01799 มีประกันอุบัติเหตุนักท่องเที่ยวกับบริษัท กรุงเทพประกันภัย กรณีเสียชีวิต   1 ล้านบาท และรักษาพยาบาล 5 แสนบาท 

+++ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ  องค์คณะพิจารณารื้อคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี   ในส่วนของจำเลยที่หนีคดีได้นัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลย ในส่วนของ  พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ  หรือหมอโด่ง  วัจนะพุกกะ  อดีตเลขานุการรัฐมนตรีพาณิชย์ จำเลยที่ 3  และ นายสุธี เชื่อมไธสง  คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ จำเลยที่ 16วันนี้จำเลยทั้งสองไม่ได้มาศาล ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับและนัดตรวจหลักฐานคดีในวันที่ 26 ตุลาคมนี้  เวลา 9.00 น. โดยให้ส่งหมายแจ้งวันนัดให้ตามที่อยู่เพื่อให้จำเลยทราบ  หากไม่มีผู้รับโดยชอบก็ให้ทำการปิดหมายไว้ สำหรับคดีในส่วนของนายภูมิ กับนายบุญทรง อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ กับเอกชนนั้น ฝ่ายจำเลยที่ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 4-48 ปี  ก็ได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว  เช่นเดียวกับฝ่ายอัยการสูงสุด  ก็ได้ยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนของจำเลยกลุ่มเอกชน 8 รายที่ยกฟ้องด้วย 

+++ขณะนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ก็ได้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณาแล้ว ขณะที่นายภูมิ กับนายบุญทรง เสี่ยเปี๋ยง และเอกชน รวม 18 ราย  ที่ถูกตัดสินจำคุกนั้นก็ยังไม่มีใครได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์

++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเคลื่อนไหวลดลงในช่วงเช้า แต่ช่วงบ่ายมีแรงซื้อจากหุ้นกลุ่มใหญ่เช่น กลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก และสื่อสารช่วยหนุนให้ดัชนียืนในแดนบวกได้ หลังจากก่อนหน้านี้มีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,614.76 จุด เพิ่มขึ้น 13.34 จุด หรือ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65,550.29 ล้านบาท

+++ปัจจัยหลักที่นักลงทุนยังคงติดตามคือ ดูสถานการณ์ทางการค้าสหรัฐกับจีน ที่เริ่มเก็บภาษีนำเข้าวันนี้เป็นวันแรก โดยในสัปดาห์หน้าคาดกันว่าจะเห็นความชัดเจนเรื่องผลของภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐ ขณะที่ ปัจจัยในประเทศ ต้องมาลุ้นผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่จะเริ่มในวันที่ 16 ก.ค.นี้ ซึ่งต้องดูว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะถูกกระทบแค่ไหนจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิตอล

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ดิ่งลงในสัปดาห์นี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นจีน แม้เกิดความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็ตาม ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้น 241.15 จุด หรือ 1.12% แตะที่ระดับ 21,788.14 จุด

++++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนซึมซับข่าวสหรัฐประกาศใช้มาตรการจัดเก็บภาษีสินค้าจากจีนดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 133.53 จุด ปิดวันนี้ที่ 28,315.62 จุด

+++คณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา มีมติเอกฉันท์ให้ไล่ออก นายณฐาภพ บุญทองโท อายุ 51 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา หลังมีพฤติกรรมชู้สาวกับนักเรียนหญิง อายุ14ปีชั้นม.2 ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนม.ค.61 และจะนมติดังกล่าวนี้เสนอต่อ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา วันที่ 12 ก.ค.นี้

+++ปตท.แจ้งปรับราคาน้ำมันขึ้น มีผลวันที่ 7 ก.ค. 61 เวลา 5.00 น.โซฮอล์95 ,91และดีเซลขึ้น 40 สตางค์ ส่งผลทำให้ โซฮอล์95 อยู่ที่ 29.65 บาท โซฮอล์ 91 อยู่ที่ 29.36 บาท ส่วนดีเซล อยู่ที่ 29 บาท 19 สตางค์ อี 20 และ อี 85 ไม่ปรับขึ้นราคา