การวางแผนลำเลียง13คนทีมหมูป่าอะคาเดมี่ออกมาจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหาย ในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนจังหวัดเชียงราย (ศอร.) กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่กังวลที่สุดคือสภาพอากาศที่อาจจะมีฝนตกลงมา ซึ่งได้ขอกรมอุตุนิยมวิทยาประเมินสถานการณ์วันต่อวันว่าจะมีฝนตกปริมาณเท่าไหร่ เพราะการทำงานตอนนี้ต้องแข่งกับน้ำ ไม่ใช่ทำงานแข่งกับเวลาเหมือนตอนค้นหา เจ้าหน้าที่พยายามสูบน้ำเต็มที่เท่าที่ทำได้ แต่ก็ยังมีน้ำเติมลงมา
ทั้งนี้ภารกิจหลักยังเป็นการสูบน้ำออกจากถ้ำ ขณะเดียวกันภารกิจเพิ่มเติมคือการคำนวณตำแหน่งจุดที่น้องๆอยู่หรือเนินนมสาวว่าอยู่บริเวณไหนหากเทียบกับพิกัดบนพื้นดิน เพื่อหาโพรงที่อาจจะลงไป ขณะนี้ได้ระดมกำลังค้นหาแล้ว
ส่วนการเดินสายโทรศัพท์ให้ทั้ง 13 พูดคุยกับญาติ ได้ติดตั้งถึง 3 แยกแล้ว อยู่ระหว่างนำโทรศัพท์ชุดใหม่เข้าไป ซึ่งการรายงานสถานการณ์ภายในถ้ำ หน่วยซีลจะต้องใช้ระยะเวลาในการเข้าออกจากปากถ้ำไปยังจุดที่น้องอยู่ถึง 11 ชั่วโมง หรือถ้าใช้เวลาจากกองบัญชาการหน่วยซีลที่โถง 3 ใช้เวลาถึง 4 ชัวโมง ทำให้อาจมีข้อมูลมาถึงศูนย์ปฏิบัติการช้า แต่เจ้าหน้าที่ก็ทำอย่างเต็มที่
ผอ.ศอร.กล่าวว่า เมื่อคืนนี้พบอาสาสมัครที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ ไปขุดเจาะน้ำและอัดน้ำกลับเข้าไป เพราะคิดว่าเป็นวิธีที่จะทำให้น้ำออกบริเวณอื่นเร็วขึ้น ซึ่งขอให้มาคุยกันก่อน อยากให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะทุกอย่างได้วางแผนไว้หมดแล้ว และเจ้าหน้าที่ทำงานมาถึง 14 วันค่อนข้างล้า นอกจากนี้ยังมีการเตรียมอุปกรณ์ 13 ชุด หากมีความเสี่ยงก็จะนำน้องออกมาทันที ด้านนอกรถพยาบาลก็มีการเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเช่นกัน
ส่วนการสอนดำน้ำนั่น พึ่งฝึกไปได้เพียงวันเดียว ไม่สามารถตอบไม่ได้ว่าน้องๆจะดำน้ำไปได้ถึงไหน ต้องให้นักดำน้ำเป็นคนประเมิน หากหากน้องๆต้องอยู่ในถ้ำ ก็ยังสามารถรอได้เพราะตอนนี้สุขภาพร่างกายและจิตใจทุกคนยังแข็งแรงดี ยังยิ้มแย้มอยู่
ด้านพลตรีบัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37กล่าวว่า การพร่องน้ำที่บริเวณถ้ำทรายทอง เครื่องสูบน้ำพยานาคสามารถสูบน้ำออกมาได้ 1.6 ล้านลิตรต่อชั่วโมง ซึ่งจุดนี้มีการขุดเจาะบ่อบาดาลอีกกว่า 10 บ่อ สามารถบายน้ำได้200,000ลิตรต่อชั่วโมง ส่วนที่บริเวณหน้าถ้ำสามาถสูบน้ำออกได้ 1.8 แสนลิตร ขณะนี้น้ำในถ้ำลดลง 1 เซนติเมตรต่อชั่วโมง รวมทุกจุดสามารถระบายน้ำได้ 2 ล้านลิตร
นายขาว เขียวภักดี ผอ.กองปฏิบัติการดับเพลิง3 ในฐานะผู้ควบคุมการสูบน้ำในถ้ำ เปิดเผยว่า ล่าสุดขณะนี้ระดับบริเวณบริเวณปากถ้ำอยู่ที่บริเวณ หัวเข่า เอว หน้าอก ส่วนบริเวณบริเวณโถงที่ 3 ไปยังจุดเนินนมสาว ระดับน้ำยังคงสูงมาก หากจะนำเด็กทั้ง 13 คนออกมา ต้องมีการดำน้ำออกมาระยะ400-500 เมตร ซึ่งการสูบน้ำออกจากถ้ำมีปัญหา เนื่องจากบริเวณโถงที่ 3 กระแสไฟไม่เพียงพอ จึงต้องมีการติดตั้งกระแสไฟก่อน ขณะนี้นำเครื่องสูบน้ำกว่า 10 เครื่อง เข้าไปประจำการแล้ว