ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++วันนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 3 วาระรวดโดยไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ท่ามเสียงคัดค้าน กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดินและเครือข่ายทนายปกป้องพระพุทธศาสนาที่เพิ่ง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ที่อ้างมติ ครม.ไม่ชอบ เพื่อจัดทำร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ใหม่
+++พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน เป็นถาดหลุม ซึ่งมีเมนู เป็น ข้าวกล้อง ต้มยำไก่ ไข่เจียว ผัดถั่วฝักยาวใส่หมู และสับปะรด กับนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ป.1- ป.6 พร้อมกับฟังรายงานการใช้โปรแกรม Thai school lunch ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับจัดอาหารกลางวันของโรงเรียน ที่สถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนาขึ้น ที่โรงเรียนวัดเกาะ จ.ระยอง ถามเด็กโตขึ้นอยากเป็นนายกฯ หรือไม่ เด็กบอกไม่อยากเป็น และถามนายกฯ ว่าทำไมอยากเป็นทหาร แนะเด็กเพาะปลูกตามแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 เสริมคุณภาพอาหารกลางวัน ฝากเด็กบอกผู้ปกครอง ร่วมมือโครงการไทยนิยมยั่งยืน ยืนยันไม่ใช่การเมือง
+++เลื่อนไปก่อน นายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต สส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน ในฐานะเลขากลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกระแสข่าวการพบปะหารือของอดีตนักการเมืองที่จะเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)โดยมีการแถลงข่าวในวันที่ 5 กรกฎาคม ว่า ขอเลื่อนไปก่อน ให้เขาทำงานอีกสัก 1 อาทิตย์ แล้วค่อยให้ข่าว เพราะขณะนี้ยังไม่ตกผลึกทางความคิดเกี่ยวกับแนวนโยบายและยุทธศาสตร์ที่จะทำให้ประชาชนจับต้องได้และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ'สามมิตร'ลั่นนโยบายชนะพท.
+++ด้าน นายชวน ชูจันทร์ ผู้จดแจ้งตั้ง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึง กรณีที่ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต สส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องถึง กกต.ให้ระงับจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐและตรวจสอบกรณีกลุ่มสามมิตร เนื่องจากดูดอดีต สส.ไปร่วมพรรคพลังประชารัฐ เป็นการเอาเปรียบพรรคอื่นและมีการกระทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง ยืนยันว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตร ไม่เคยเจอใคร ในกลุ่มสามมิตรและการเคลื่อนไหวของกลุ่ม สามมิตรทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และกกต.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบและไปดูว่าเขาทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือไม่ฟุ้งอดีตสส.ติดต่อเข้าพรรคอื้อ
+++นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) การกระทำของกลุ่มสามมิตรจะเข้าข่ายผิด มาตรา 30,31 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมืองที่กำหนด ว่าห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดเสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ไม่ว่าโดยตรง หรือ โดยอ้อมเพื่อจูงใจ ให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ คสช.ที่สวมหมวกหลายใบควรมีท่าทีต่อเรื่องนี้ และกกต.มีแนวดำเนินการต่อเรื่องนี้อย่างไร ประชาชนจับตาดูอยู่
+++ด้าน นายวัฒนา เมืองสุข อดีต สส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.นวพล พัฒนิบูลย์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กรณีวิจารณ์รัฐบาลที่ดำเนินคดี กับเจ้าของเพจ "KonthaiUk" (คนไทยยูเค) ที่แสดงความเห็นในเรื่องซื้อดาวเทียมไธอา(THEIA) จากสหรัฐอเมริกา มูลค่า 91,200 ล้านบาท และผู้ที่แชร์โพสต์จากเพจดังกล่าว
+++ส่วนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกหมายจับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ฐานกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ให้รัฐบาลเมียนมาร์ วงเงิน 4,000 ล้านบาท เป็นหมายจับใบที่4
+++นายณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็ฯทางการเมือง เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ในช่วงที่เคยทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมยืนยันว่าส่วนตัวยังทำธุรกิจอยู่ และยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ นายณัฐพล ยังตอบคำถามสื่อมวลชนว่า จะไปอยู่กับนายสมคิดหรือไม่ว่า ว่าส่วนตัวยังไม่ลงเลือกตั้งแบบระบบเขต และไม่อยู่ในระบบปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคด้วย ส่วนจะช่วยในรูปแบบไหน ยังไม่ขอตอบ แต่ย้ำว่า จะให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจเป็นลำดับแรกก่อน ขณะนี้การเมืองยังครุกรุ่นอยู่ และยังไม่มีใครสามารถตัดสินใจได้ พร้อมยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่มีการพูดคุยกับกลุ่มสามมิตร พร้อมเชื่อว่าการเมืองในอนาคตน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน และหากทำการเมืองแบบเดิมที่ทำกันมา ประเทศก็ไม่มีความก้าวหน้า เพราะรู้แล้วว่าผลเสียคืออะไร นายณัฐพล กล่าวถึงพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นทางเลือกของประชาชน ประชาชนจะเลือกพรรคไหนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
+++ส่วนขณะนี้มองว่าพรรคประชาธิปัตย์มีเลือดไหลได้หรือไม่ นายณัฐพล กล่าวว่า นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยพูดไว้แล้วว่า ใครตัดสินใจไม่ทำงานกับพรรค ก็คงไม่มีปัญหาะไร เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่เข้มแข็งและมีมาตรฐานสูง มีแนวทางที่เข้มแข็ง จึงเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีผลกระทบ
++++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง มองว่า เศรษฐกิจไทยเริ่ม แข็งแรง เพราะยังมีทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว การลงทุนภาครัฐช่วยส่งเสริม แม้จะมีสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐ ยุโรป จีน แต่มองว่า กระทบไทยไม่มากนัก อีกทั้งยังเป็นโอกาสของไทยที่สามารถส่งออกสินค้าบางส่วนเข้าไปทดแทน นอกจากนี้ การส่งออกไปอาเซียนมีสัดส่วนใหญ่ของการส่งออกทั้งหมด ด้วยการหันมาพึ่งพาเศรษฐกิจของกลุ่มอาเซียนด้วยกันเองแทนการพึ่งพาการส่งออกไปประเทศคู่ค้าเดิม เพราะขณะนี้เศรษฐกิจอาเซียนเริ่มเติบโตพึ่งพาตนเองได้
+++นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)รายงานนโยบายการเงิน เดือนมิถุนายน 2561 ว่า นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และการตอบโต้จากประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ถือเป็นความเสี่ยงมากที่สุดต่อประมาณการเศรษฐกิจที่จะโน้มไปด้านต่ำมากกว่าที่เคยประเมินไว้ แม้ว่า กนง.จะปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้เป็น 4.4% จากเดิม 4.1% แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ หากการส่งออกของจีนถูกกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า ในฐานะประเทศไทยที่อยู่ในซัพพลายเชน อาจถูกกระทบไปด้วย และหากประเทศที่ถูกกีดกันทางการค้า เข้ามาแย่งตลาดเรา หรือทุ่มตลาด ผู้ส่งออกไทยอาจถูกกระทบได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประเมินได้ยากมาก
+++วันนี้ บีทีเอสแถลงมาตรการเยียวผู้ได้รับผลกระทบ จากปัญหาขัดข้องหลายครั้งในช่วงเดือน มิ.ย.