ศาลฎีกาฯ ออกหมายจับเพิ่มทักษิณ คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้รัฐบาลพม่า/ประธานกรธ. เผยยังไม่สามารถคิดล่วงหน้าปรับรูปแบบไพรมารี่โหวต/ใช้โดรนฉลองวันชาติสหรัฐฯ

+++นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ สร้างฝายชั่วคราวซึ่งสร้างเป็นฝายที่ 3 กั้นลำหัวยผาฮี้ บริเวณบ้านมูเซอผาฮี้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่ถ้ำหลวงทางทิศใต้ของถ้ำได้วันละ 13,000 ลูกบาศก์เมตร

+++วันนี้ มีการซ้อมใหญ่ขนย้ายลำเลียงทั้ง 13 ชีวิต จากถ้ำหลวงไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการตรวจร่างกายและดูแลรักษาอาการหากพบมีการเจ็บป่วยเกิดขึ้น โดยมีระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตรโดยใช้รถยนต์ตำรวจจำนวน 13 คัน เป็นเสมือนรถตู้พยาบาล และมีตำรวจดูแลการจราจรมาตลอดแนวตั้งแต่ออกจากถ้ำหลวงไปถึงถนนพหลโยธินแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางทิศเหนือก่อนจะเลี้ยวกลับไปทาง อ.เมืองเชียงราย และเลี้ยวขวาตรงแยกศรีทรายมูลในเขตเทศบาลนครเชียงรายสู่อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน 14 ชั้นของโรงพยาบาล ผลปรากฎว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 42 นาทีในการเดินทาง

+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)กล่าวถึง ผลการหารือระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล กรธ.และพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนว่า ผลการหารือดังกล่าวไม่ได้เข้าสู่การประชุมคสช.เมื่อวานนี้  แต่หากรัฐบาลเห็นว่าจำเป็นจะต้องใช้มาตรา 44 เพื่อปลดล็อกให้พรรคการเมือง สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้จึงจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคสช. เรื่องการเลือกตั้งเป็นเรื่องที่รัฐบาลดูแล ส่วนปัญหาการทำไพรมารีโหวต หากจำเป็นต้องใช้มาตรา 44 คสช.จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการประธานกรธ.กล่าวถึงข้อเสนอการปรับรูปแบบการทำไพรมารีโหวต 3 รูปแบบว่า ยังไม่สามารถคิดล่วงหน้าได้ เพราะจะต้องทราบปัญหาจากพรรคการเมืองที่แท้จริงก่อน จึงจะพิจารณาต่อว่าสามารถแก้ไขได้ด้วยกฎหมายปกติหรือไม่

+++องค์คณะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ (EXIM BANK) นัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลย ภายหลัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 เป็นจำเลย เห็นชอบให้เอ็กซิมแบงก์ อนุมัติปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ให้รัฐบาลพม่า วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของพม่า (เมียนมา) ซึ่งดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาต้นทุนของเอ็กซิมแบงก์ และเพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียม ที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์จากบริษัท ชินแซทเทอร์ไลท์ ที่เป็นบริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร เป็นการนำขึ้นมาพิจารณาใหม่โดยไม่มีตัวจำเลย หลังจาก พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 ออกมาบังคับใช้

+++วันนี้ ป.ป.ช. เดินทางมาที่ศาลพร้อมเข้าสู่กระบวนพิจารณา ส่วนนายทักษิณ จำเลย ไม่มาศาล และไม่มีผู้แทนใดรับมอบอำนาจมาศาลแทน องค์คณะพิจารณาแล้ว เห็นว่านายทักษิณ ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือขอเลื่อนคดี พฤติการณ์มีเหตุควรเชื่อได้ว่าจำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ

+++การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,629.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.58 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 58,233.48 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ทรง ๆ ตัว คล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากตลาดยังคงอยู่กับปัจจัยเดิม ๆ เรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้า

+++ส่วนในต่างประเทศ รอการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/ 2561 ของบริษัทจดทะเบียน และติดตามค่าเงินบาทจะอ่อนค่าไปไกลหรือไม่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะอ่อนไปไกล และคาดว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศคงยังไม่ปรับขึ้น หากจะขึ้นก็คงเป็นปลายปีแค่ครั้งเดียว

+++การลงทุนในตลาดต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค.นี้ จะเป็นวันที่สหรัฐฯเตรียมเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ทางด้านจีนก็เตรียมเก็บภาษีร้อยละ 25 ต่อสินค้าสหรัฐฯ ในวงเงินเดียวกันในวันดังกล่าวเช่นกัน ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 303.90 จุด ปิดวันนี้ที่ 28,241.67 จุด

+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ นักลงทุน ระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ทั้งสองประเทศจะเริ่มใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในวันศุกร์นี้ ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 68.50 จุด แตะที่ระดับ 21,717.04 จุด

+++หลายรัฐในสหรัฐหันมาใช้โดรนฉลองวันชาติ 4 กรกฎาคมแทนการจุดพลุหรือดอกไม้ไฟกันมากขึ้น ปลอดภัยสำหรับรัฐที่กำลังประสบภาวะแห้งแล้งและไฟป่า

+++ฐานทัพอากาศทราวิส ชานนครซานฟรานซิสโก ห่างจากจุดที่กำลังเกิดไฟป่าเพียง 1 ชั่วโมงขับรถ จะนำโดรนจิ๋วติดไฟแอลอีดีจำนวน 500 ลำ มาโชว์แสงสีเสียงบนท้องฟ้า เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยจุดพลุฉลองวันชาติมาก่อนเนื่องจากเกรงเป็นอันตราย บริษัทที่รับจัดแสดงโชว์ด้วยโดรนยอมรับว่า ค่าใช้จ่ายในการแสดงเพียงครั้งเดียวถือว่าแพง แต่เป็นเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ บริษัทจะคิดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงเพื่อเป็นการขอบคุณทหารหาญผู้ปกป้องประเทศ ส่วนเรื่องกระแสลมจะไม่เป็นปัญหาต่อการแสดงหากอยู่ในระดับ 13-18 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 20.8-28.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

+++เช่นเดียวกับหลายเมืองในรัฐทางตะวันตกที่กำลังเผชิญภาวะแห้งแล้งและไฟป่าอย่างแคลิฟอร์เนีย โคโลราโด และแอริโซนาก็หันมาใช้โดรนแทนการจุดพลุ เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าจุดใหม่ ๆ

แฟ้มภาพ