นายกฯ ลงพื้นที่โรงเรียนวัดเกาะจ.ระยอง ย้ำยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ

การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต อาหารกลางวัน และการจัดการศึกษาเพื่อเตรียมเข้าสู่โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา หรือ Partnership School Project ที่ โรงเรียนวัดเกาะ (กริ่มกำพล) อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ได้กล่าวทักทายกับประชาชน และข้าราชการที่มาต้อนรับว่า ขณะนี้ประเทศต้องขับเคลื่อนด้วยคนทุกคน ส่วนด้านเกษตรกรรมจะต้องดูความต้องการของตลาดเป็นหลัก และต่อจากนี้จะต้องไม่มีการประท้วงเรื่องราคาสินค้าอีกต่อไป พร้อมยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ลงพื้นที่เพราะการเมือง แต่มาเพื่อทำอย่างไรให้เกิดการพัฒนาให้ยั่งยืน เพราะจังหวัดระยอง ถือเป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวสูงสุดในประเทศ แต่ถือว่ามีช่องว่างระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตรที่ห่างกันสูง ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการเรื่องนี้ จึงขอให้ท้องถิ่นช่วยกัน นายกรัฐมนตรี ยังหันไปบอกครูที่มารอต้อนรับด้วยว่าต้องช่วยกัน ต้องมีการบริหารจัดการให้ได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ติดตามข่าวช่วยเหลือเด็กและโค้ช ทั้ง 13 คนอย่างมีสติ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลและสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใย จึงขอให้แยกแยะ หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ถามประชาชนที่มารอต้อนรับว่า ใครจะอาสาไปถ้ำหลวงบ้าง แต่เมื่อมีผู้ตอบรับอาสานายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่ต้องเดินทางไปเพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรีและคณะได้ร่วมรับประทานอาหารกับเด็กโรงเรียนวัดเกาะ ที่นำผลผลิตจากพืชผักสวนครัวที่ปลูกในโรงเรียนมาประกอบอาหาร และพูดคุยกับเด็กๆอย่างเป็นกันเองพร้อมบอกว่าที่มาเป็นทหารเพราะบิดาเป็นทหาร แม่เป็นครู เกิดในค่ายทหาร จึงคิดแต่อยากเป็นทหารอย่างเดียว ใครจะเป็นทหารต้องออกกำลังกายเยอะๆ ซึ่งเด็กก็ถามต่อว่า นายกรัฐมนตรี ชอบผู้หญิงแบบไหน นายกรัฐมนตรีจึงตอบว่าชอบแบบที่เป็นภรรยาปัจจุบัน และฝากให้เด็กไปบอกพ่อแม่ออกไปเลือกตั้งด้วย รวมถึงฝากบอกผู้ปกครอง ว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไม่ใช่การสืบทอดอำนาจและโครงการไทยนิยมยั่งยืนไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นการทำให้บ้านเมืองและคนไทยทุกคนเข้มแข็งไปด้วยกัน

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการเรียนการสอนการสอน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ พร้อมสอนเด็กๆ ให้รู้จักผสมคำ พร้อมยกตัวอย่างเด็กและโค้ช 13 คน ทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ไปติดถ้ำหลวง แล้วพูดภาษาอังกฤษกับนักดำน้ำได้ ไม่ช้าเกินไปอยากให้เด็กๆ ทุกคนพยายามเรียน พร้อมยืนยันรัฐบาลต้องการให้เด็กเรียนถึงปริญญาตรีแล้วกลับมาพัฒนาบ้านเกิด

ขณะเดียวกัน ยังสาธิตการออกกำลังกายให้กับเด็กนักเรียนด้วย เพื่อที่จะได้ไม่ง่วงในเวลาเรียน และขอให้กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาแยกคำตอบ ออกจากหนังสือเรียน เพื่อให้ รุ่นน้องนำแบบเรียนไปใช้ต่อได้และจะทำให้ประหยัดงบประมาณ

สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้  พบว่าไม่มีการนำป้ายยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรี ไว้ที่หน้างานเหมือนที่ผ่านๆมา  โดยฝ่ายจัดงานในพื้นที่ ได้ประกาศว่าเป็นความประสงค์ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้มีการจัดงานแบบเรียบง่ายและต้องการพบประชาชนอย่างแท้จริง

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี