การระบายน้ำจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนลงสู่พื้นที่การเกษตร ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ความเสียหายของพื้นที่ที่รับน้ำอยู่ในระดับลดลง จากการติดตามสถานการณ์พบว่า น้ำที่ระบายลงมาจากถ้ำหลวงและจากน้ำบาดาล รวมกัน 68,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และน้ำที่สูบจากหนองเดิม 250,000 ลูกบาศก์เมตร
ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายนถึงวันที่ 3 กรกฎาคม น้ำไหลลงมาในพื้นที่ทางการเกษตร 600,000 ลูกบาศก์เมตร ลึกไม่น้อยกว่า 50ซม. ทำให้นาข้าวได้รับความเสียหาย ข้าวที่อายุน้อยกว่า1เดือน เสียหายบางส่วน แต่บางส่วนก็ฟื้นฟูได้ ตอนนี้เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่แม่น้ำจ้องและแม่น้ำละ ก่อนจะไหลลงไปสู่แม่น้ำลวกและออกแม่น้ำโขง
ซึ่งเส้นทางจากพื้นที่น้ำท่วมขังไปถึงแม่โขงรวมระยะทางเกือบ50กม. ซึ่งขณะนี้มี758ไร่ ที่ได้รับผลกระทบหนัก ส่วนพื้นที่อื่นๆน้ำไหลผ่านยังไม่ได้รับผลกระทบ วันนี้กรมชลประทาน จึงเร่งระบายน้ำ ผลก็เป็นที่น่าพอใจ
ส่วนการชดเชยเกษตรกรเป็นไปตามระเบียบ ไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากความเสียหายไม่ได้อยู่ในวงกว้าง ขณะนี้การระบายน้ำเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจาก ปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง และระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลง ต่างจากก่อนหน้านี้การระบายน้ำจากแม่น้ำลวกมาแม่น้ำโขงค่อนข้างยาก เพราะมีปริมาณน้ำสูง ตอนนี้เพียงแต่เฝ้าระวังฝนตก ซึ่งหน้าที่จะเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบาย
สำหรับการเจาะน้ำบาดาลเพื่อเร่งระบายในถ้ำหลวงออก ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อชั้นใต้ดินหรือไม่ ดร.สมเกียรติ ยืนยันว่า จะไม่ส่งผลกระทบใดๆเพราะเป็นเพียงการสูบน้ำออกให้เร็วขึ้นเท่านั้น
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ