สรุปข่าวเที่ยง:รองนายกฯประวิตรรับกระแสน้ำแรงนำเด็กออกจากถ้าไม่ได้/รมว.ท่องเที่ยวส่งนักดำน้ำกลับอังกฤษค่ำนี้/ฆ่าหมู่อินเดียคาดเชื่อไสยศาสตร์

ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการนำตัวโค้ช และนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอคาเดมีทั้ง13คน ออกจากถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ในถ้ำนั้นกระแสน้ำแรง และพื้นที่แคบทำให้ยังพาตัวทั้ง13คนออกมาไม่ได้ ต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมาก ซึ่งขณะนี้กำลังสอนให้ทั้ง13คนดำน้ำ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการสอนเด็กดำน้ำ อาจทำให้เด็กตกใจ และเกิดอันตราย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตกใจเรื่องอะไรเราสอนให้เขาสุขภาพแข็งแรง เพราะ10วันไม่ได้ทานอาหาร ก็ลำบาก โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งให้ทุกคนนำพาเด็กกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด หากน้ำลดน้อยลง และกระแสน้ำไม่แรงก็นำออกมาได้ดังนั้นไม่ต้องห่วง เพราะทุกฝ่ายได้ดำเนินการช่วยกันอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะหน่วยซีล

+++นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) จะเป็นตัวแทนรัฐบาลเดินทางไปส่งนาย โรเบิร์ต ชาร์ล ฮาร์เปอร์ 1ใน3 ฮีโร่ทีมนักดำน้ำกู้ภัยจากอังกฤษที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี่ที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ซึ่งมีกำหนดเดินทางกลับประเทศอังกฤษในช่วงดึกคืนนี้(4 ก.ค.) โดย รมว.ท่องเที่ยวฯและคณะจะเดินทางไปส่งฮีโร่ด้วยตนเอง  พร้อมทำพิธีมอบใบประกาศนียบัตรแทนคำขอบคุณให้กับนายฮาร์เปอร์ ซึ่งประกาศนียบัตรฉบับนี้จัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีข้อความคำขอบคุณจากใจคนไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยจะทำพิธีมอบใบประกาศนียบัตร ในเวลา 22.00 น.บริเวณฝั่งประตูขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ

++++นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องนายกรัฐมนตรีทบทวนคำสั่งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อตอบแทนความดีความชอบ หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย 12 คน ในคำสั่งดังกล่าวมีนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ถูกย้ายให้เป็นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นจังหวัดที่เล็กกว่า เชื่อว่านายณรงค์ศักดิ์ถูกย้ายเพราะเป็นคน “ตงฉิน” ไม่ยินยอมให้กับเรื่องที่มีความไม่ถูกต้อง หากสังคมไทยเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ ขอช่วยกันลงชื่อสนับสนุนใน Change.org เพื่อรวบรวมรายชื่อเสนอนายกฯและ ครม.พิจารณาต่อไป

+++ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาครั้งแรกคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ  กรณีการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ให้รัฐบาลเมียนมาร์ วงเงิน 4,000 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยในอัตรา 3% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าราคาต้นทุนของเอ็กซิมแบงก์

+++องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาแล้วเห็นว่า นายทักษิณ จำเลยที่ 1 ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่เดินทางมาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องหรือแจ้งเลื่อน มีพฤติการณ์ควรเชื่อว่าหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ กำหนดไว้ 3 เดือน หากไม่สามารถจับกุมได้ ศาลมีอำนาจให้ดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยไม่ต้องทำต่อหน้าจำเลย แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยในการต่อสู้คดี จึงให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 31 ต.ค. 2561 เวลา 9.00 น. โดยให้โจทก์ยื่นบัญชีพยานหลักฐานก่อนวันนัดไต่สวนไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้ส่งหมายแจ้งให้จำเลยทราบ หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมายต่อไป สำหรับคดีนี้เป็นการออกหมายจับใบที่ 4 ในการให้ติดตามจับกุมนายทักษิณเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี หลังการรื้อฟื้นคดีของนายทักษิณขึ้นมาพิจารณาใหม่

+++คดีนี้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2551 ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.2551 ศาลฎีกาฯ นัดพิจารณาครั้งแรก แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ (ยศขณะนั้น) ไม่มา จึงให้จำหน่ายคดีชั่วคราวและออกหมายจับ โดยต่อมาหลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2560 ทำให้คดีที่จำเลยหลบหนีการพิจารณาคดีของศาลฎีกาฯ สามารถนำกลับมารื้อฟื้นพิจารณาต่อไปได้ลับหลังจำเลยนนี้ ป.ป.ช.โจทก์เดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดมาศาล

+++กรณีพบการตายปริศนา 11 ศพ แยกเป็นผู้ชาย 4 คนผู้หญิง 3 คนและเด็กผู้หญิง 4 คน ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านบุรารี กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกัน สภาพศพอยู่ในลักษณะถูกปิดตาและแขวนคอลงมาจากหลังคา 10 ศพ ส่วนอีก 1 ศพ เจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นการฆ่ากันเอง หรือฆ่าตัวตายเพื่อประกอบพิธีกรรมบางอย่าง เนื่องจากพบหลักฐานใหม่เป็นจดหมายที่ทำให้เชื่อได้ว่าทั้งหมดอาจมีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ ด้านญาติคนอื่นๆ ของครอบครัวนี้ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายหมู่ เพราะทุกคนไม่ปัญหาการเงิน ทุกคนมีความสุขดี และถ้าพวกเขาฆ่าตัวตายทำไมถึงต้องปิดตาตัวเอง และยังมีข้อสงสัยหลายจุด ทั้งทำไมญาติคนอื่นๆ ถึงไม่รู้ว่าครอบครัวนี้นับถือและเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ และทำไมถึงจัดงานและเตรียมงานแต่งให้กับลูกสาวซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต