ยังเอาออกมาวิ่ง จนท.ขนส่งฯปรับแท็กซี่หมดอายุหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

เย็นวันนี้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อตรวจสอบและจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ นาย สุริยา สังข์รุ่ง เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กองตรวจการ กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ลงพื้นที่วันนี้เพื่อตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทที่กระทำผิดกฎหมายทั้งรถแท็กซี่, รถทัวร์, รถสามล้อ, รถตู้โดยสาร และรถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ที่มักพบการปฏิเสธผู้โดยสาร, คิดราคาเหมาโดยไม่กดมิเตอร์ ทั้งนำรถที่หมดอายุการใช้งานมาวิ่งรับผู้โดยสาร ถ้าพบรถโดยสารสาธารณะที่กระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที โดยจะทำควบคู่ไปกับการดูสภาพการจราจรด้วย เนื่องจากการจราจรบริเวณดังกล่าวมักติดขัดหนาแน่นในช่วงเย็น

สำหรับการตรวจรถโดยสารสาธารณะก็จะตรวจคล้ายๆกัน ทั้งการตรวจการแต่งกาย, ตรวจการชำระภาษี, ตรวจใบอนุญาตการขับรถโดยสารว่าถูกต้องตามประเภทการใช้งานหรือไม่ เหมือนกับรถแท็กซี่ ต่างกันตรงที่รถแท็กซี่จะมีการเพิ่มการตรวจรอบมิเตอร์ว่าหมดอายุหรือไม่, ตรวจรถป้ายแดงที่ยังไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งไม่สามารถนำมาวิ่งรับผู้โดยสารได้ ถ้าพบความผิดใด เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการขั้นสูงสุด

ในวันนี้ พบรถโดยสารสาธารณะกระทำผิดกฎหมายจำนวน 7 คัน แบ่งเป็นรถแท็กซี่ 6 คันและรถทัวร์โดยสาร 1 คัน โดยรถแท็กซี่ 4 คันพบว่ามีการนำรถหมดอายุมาวิ่งรับผู้โดยสาร ทั้งนี้พบว่า 1 ใน 4 คันเคยถูกเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกถอดยึดป้ายทะเบียน เพราะรถหมดอายุมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งผู้ขับรถเองก็ยอมรับและบอกว่าได้นำทะเบียนอื่นมาสวมใหม่ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจึงถอดยึดป้ายทะเบียนทั้ง 4 คันทันที พร้อมออกคำสั่งให้ไปเปลี่ยนประเภทรถเป็นรถโดยสารส่วนบุคคล ส่วนค่าปรับมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่มีผู้ขับรถคันใดยอมจ่าย เจ้าหน้าที่จึงออกคำสั่งผู้ตรวจการให้ไปจ่ายที่ขนส่ง

ส่วนรถแท็กซี่อีกคัน พบว่ามีความผิดเพราะติดฟิล์ม ขณะที่รถแท็กซี่อีกคันพบว่าไม่ยอมนำรถเข้าตรวจสภาพมิเตอร์ เจ้าหน้าที่จึงเปรียบเทียบปรับทันที ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ 2522 ส่วนการปฏิเสธผู้โดยสารและคิดราคาโดยไม่กดมิเตอร์วันนี้ยังไม่พบการทำผิด พร้อมยอมรับว่าแต่ก่อนมีจำนวนมาก แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ทุกวัน จึงพบการทำผิดดังกล่าวน้อยลง แต่หากพบก็จะดำเนินการออกใบสั่งและลงโทษขั้นสูงสุดปรับ 1,000 บาท พร้อมสั่งให้ไปอบรม ทั้งนี้หากพบการทำผิดซ้ำไม่ว่าจะในความผิดใดก็อาจถึงขั้นพักใช้งานและลงโทษสูงสุดคือ เพิกถอนใบอนุญาต

ด้านรถทัวร์ที่ทำผิด 1 คันนั้นพบว่าอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง โดยมีการติดสปอร์ตไลท์ถึง 9 ดวง และติดแตรลม ซึ่งเป็นอุปกรณ์ส่วนควบที่ห้ามติดตั้งตามพระราชบัญญัติขนส่งทางบก 2522 มีค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท แต่ผู้ขับรถไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ เจ้าหน้าที่จึงออกคำสั่งผู้ตรวจการให้ไปชำระค่าปรับที่ขนส่ง ส่วนวันนี้ยังไม่เจอรถจักรยานยนต์ป้ายดำ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ห้ามนำมาวิ่งรับผู้โดยสาร ถ้าพบก็จะมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท

สำหรับสภาพการจราจรบริเวณถ.ราชดำริ รอบห้างเซ็นทรัลเวิลด์ในขณะนี้ฝั่งที่มุ่งหน้าไปประตูน้ำการจราจรติดขัดหนาแน่น ส่วนฝั่งกลับกันก็ติดขัดหนาแน่นเช่นกัน โดยขณะนี้มีฝนตกโปรยปรายลงมาเป็นระยะด้วย

ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร ผู้สื่อข่าว