การช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดในถ้ำหลวง
พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจเหมือนทุกคน ที่พบตัวผู้สูญหายทั้งหมด แม้ว่าจะไม่ได้ไปด้วยแต่ก็ได้ส่งผู้บังคับบัญชาลงไปกำกับในพื้นที่แล้ว เด็กทุกคนปลอดภัยดี สำหรับการปฏิบัติงานในครั้งนี้ที่ประสบความสำเร็จได้ เป็นเพราะความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ช่วยในการพร่องน้ำเพื่อให้การทำงานของนักดำน้ำสะดวกขึ้นและทุกฝ่ายที่สนับสนุนจนประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ซึ่งตนเองก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ทุกคนร่วมมือกันในครั้งนี้ ส่วนการปฏิบัติงานในขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จะประชุมเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือ ส่วนของนักดำน้ำเองก็พยายามลำเลียงอาหารและน้ำให้เด็ก ๆ และโค้ชทั้ง 13 คน พร้อมกับส่งพันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน แพทย์ทหารกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา พร้อมกับหน่วยพยาบาลเวชศาสตร์ใต้น้ำของกองทัพเรือเข้าให้การช่วยเหลือเด็กๆ ซึ่งรายละเอียดเป็นอย่างไรขอให้รอฟังข่าวอีกครั้ง
ขณะที่การเดินทางจากโถง 3 ไปยังที่เด็กๆอยู่ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง และจากโถง 3 มาที่ปากถ้ำใช้เวลา 3 ชั่วโมง ซึ่งทางกองทัพเรือจะสนับสนุนสิ่งที่หน่วยงานร้องขอทุกอย่าง
ด้านนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดำเนินงานด้านสาธารณสุขในการช่วยเหลือหลังพบนักฟุตบอล และโค้ช ทั้ง 13 คน ว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว และดีใจเมื่อรับทราบข่าวดี ส่วนการนำทั้ง 13 คนออกจากถ้ำต้องทำให้ทั้งหมดปลอดภัย จึงคิดว่าควรปฏิบัติการตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด รวมถึงการนำน้ำ อาหาร ไฟฟ้า เข้าไปในพื้นที่ เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายให้แข็งแรงก่อนนำทั้ง 13 คนออกมาอย่างปลอดภัย จากนั้นทีมแพทย์จะเข้าไปดูแลเรื่องสุขภาพเพิ่มเติม ขณะที่โรงพยาบาลต่างๆมีการเตรียมเครื่องมือ และอุปกรณ์ไว้พร้อมแล้วเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือให้ทั้ง 13 คน ปลอดภัยที่สุด
...
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี