การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน คาดว่า ที่ประชุมจะมีการรายงานความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือ หลังจากพบตัวนักฟุตบอลและโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ 13 คนที่ติดภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ที่ได้พบทั้ง 13 ชีวิต แล้วเมื่อคืนนี้
ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ จะเสนอเรื่องการผลิตนักศึกษาแพทย์ของกลุ่มสถาบันแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท) ให้มีการผลิตแพทย์ปีละ 3,000 คน ตั้งแต่ปี 2561 – 2570 แม้การผลิตแพทย์ ปีละ 3,000 คนไม่เพียงพอ เพราะส่วนใหญ่แพทย์กระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ในอัตราแพทย์ต่อจำนวนประชากรประมาณ 1 ต่อ 800 คน ขณะที่ ในพื้นที่ต่างจังหวัดมีอัตราแพทย์ต่อประชากรอยู่ที่ 1 ต่อ 2,500 คน แต่คงไม่มีนโยบายเพิ่มการผลิตแพทย์มากกว่านี้ โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะไปปรับรูปแบบการใช้แพทย์ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้เสนอให้มีการปรับเงื่อนไขการใช้ทุน จากเดิมผู้ที่เรียนแพทย์ 1 คน หากไม่ประสงค์จะทำงานในโรงพยาบาลรัฐตามเงื่อนไขที่กำหนด จะต้องเสียค่าปรับ จำนวน 400,000 บาท เป็น 5,000,000 บาท และให้เงินค่าปรับนี้ส่งคืนสู่รัฐบาล
พร้อมเสนอการปรับชื่องบประมาณที่จะนำมาใช้เป็นค่าอุปกรณ์การเรียนการสอน จากงบลงทุนเป็นงบจัดหาอุปกรณ์ และครุภัณฑ์พื้นฐานในการเรียนการสอนแทน
ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาสั่งห้ามโรงงานใช้วัตุดิบที่ใช้แล้วจากต่างประเทศมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ประกอบด้วย ซากอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนใช่แล้วมือสอง เศษพลาสติกใช้แล้ว สินค้าที่ไม่ใช้แล้วอื่นๆ เช่น สายไฟ หม้อแปลง โดยบังคับใช้ ตามพ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ.2535
ขณะเดียวกัน คาดว่า กระทรวงแรงงาน จะได้รายงานผลการลงทะเบียนพิสูจน์สัญชาติของแรงงานต่างด้าวและการทำฐานข้อมูลทะเบียนประวัติที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) ที่เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. เป็นวันสุดท้ายของการเปิดให้ลงทะเบียน และตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.กรมการจัดหางาน จะดำเนินมาตรการกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หากตรวจพบคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ จะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท ถูกส่งกลับประเทศและห้ามขออนุญาตทำงานในประเทศไทย2 ปี
พร้อมรายงานผลที่กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา แถลงออกรายงานการค้ามนุษย์ประจำปี 2561 (Tip Report 2018) โดยเลื่อนอันดับให้ประเทศไทยจากกลุ่มอันดับที่ 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 watch list) ขึ้นมาเป็น กลุ่มที่ 2 (Tier 2) เนื่องจากมีการแก้ไขความคืบหน้าการค้ามนุษย์
ก่อนการประชุม ครม. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับผู้จัดการสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงนิทรรศการประชาสัมพันธ์ เรื่อง “วันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2561”
ด้านปลัดกระทรวงมหาดไทย นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงนิทรรศการการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับพื้นที่
ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี