ชาวอเมริกันหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมประท้วงตามเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ เพื่อแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกนโยบายการผลักดันผู้อพยพกลับประเทศ จนทำให้เกิดสภาวะครอบครัวต้องพลัดพรากจากกัน ท่ามกลางข้อมูลว่ามีเด็กอเมริกันมากกว่า 2,000 คนที่ต้องอาศัยอย่างโดดเดี่ยวในสหรัฐฯ หลังจากที่พ่อแม่ของพวกเขา ซึ่งเป็นผู้อพยพและพบการกระทำความผิดในคดีอาญาถูกส่งตัวกลับประเทศ การประท้วงมีขึ้นในระหว่างที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางไปยังสนามกอล์ฟในรัฐนิวเจอร์ซีย์
ที่บริเวณด้านนอกทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดีซี ผู้ประท้วงร่วมกันชูป้ายเรียกร้องให้สมาชิกในครอบครัวได้กลับมาอาศัยอยู่ร่วมกัน ส่วนที่มหานครนิวยอร์ก ผู้ประท้วงได้เดินขบวนข้ามสะพานบรู๊คลินพร้อมชูป้ายต้อนรับผู้อพยพ ขณะที่ในเมืองเอล ปาโซ่ รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นบริเวณพรมแดนติดต่อกับเม็กซิโก ผู้ประท้วงชุมนุมปิดล้อมสะพานเชื่อมต่อระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโกเช่นกัน ด้านชาวชิคาโกหลายพันคนได้ร่วมกันเดินขบวนประท้วงบริเวณสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ เห็นแก่หลักมนุษยธรรม แม้ก่อนหน้านี้อัยการกลางสหรัฐฯ จะมีคำพิพากษาให้ครอบครัวสามารถกลับมาพบกันได้เป็นครั้งคราว โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ขอให้กองทัพจัดสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก สำหรับเป็นที่พบปะกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว การชุมนุมที่เกิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและถือเป็นการชุมนุมสนับสนุนผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ในรอบ 8 ปี
....
**7.35F174**