*กองปราบ นำตัวพล.ท.มนัส ผู้ต้องหาร่วมกันมีอาวุธสงครามกับพวก ส่งฟ้องศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี*

ตามที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นัดให้ พล.ท.มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่3 เข้ามารายงานตัว เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมก่อนพิจารณาส่งฟ้องข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิดไว้ครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งสอบสวนเพิ่มเติมกรณีกลุ่มชายชุดดำก่อเหตุที่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้นำตัวพล.ท.มนัส พร้อมพวกจำนวน 7 คน ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการศาลจังหวัดทหารบกสระบุรีแล้ว เนื่องจาก พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้นำสำนวนการส่งฟ้องยื่นไปที่ศาลก่อนหน้าแล้ว รวมทั้งคดีนี้มีผู้ต้องหาถึง 7 คน จึงอาจเป็นการยุ่งยากหากนำมาที่กองปราบปรามก่อน โดยการไปรายงานตัวที่ศาลทหารบกจังหวัดสระบุรีเลย ไม่ถือว่าเป็นความผิด และการไปรายงานตัววันนี้ ของพล.ท.มนัส เป็นการรับฟังสำนวนคดีของพนักงานกองปราบปรามที่สั่งฟ้องพล.ท.มนัสพร้อมพวกอีก 10 คน ซึ่งหลังรับฟังคำสั่งฟ้อง พล.ท. มนัสสามารถเดินทางกลับได้ ตามเงื่อนไขการประกันตัวเดิม และในวันที่ 23 กันยายนนี้ ศาลทหารบกจังหวัดสระบุรีจะนัดพล.ท.มนัสพร้อมพวกอีกครั้ง เพื่อรับฟังว่าศาลมีคำสั่งฟ้องหรือไม่  รองผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่า ผู้ต้องหาเครือข่ายอาวุธสงครามกลุ่มนี้ มีความเชื่อมโยงกับคดีความมั่นคงในหลายคดี รวมไปถึงคดีของชายชุดดำ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งกองปราบปรามได้แยกสำนวนสืบสวนแต่ละคดีไว้แล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีครอบครองอาวุธสงครามที่พบที่อำเภอวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ยังมีผู้ต้องหาที่ศาลได้ออกหมายจับ แต่ยังหลบหนีอยู่อีก 4 คน ได้แก่ นายจักรภพ เพ็ญแข, นายจักรินทร์ เรืองศักดิ์วิชิต, นายกฤษณะ ทัพไทย, และนายชัยวัฒน์ ผลโพธิ์ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป