การค้นหาทางเข้าถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนด้านบนปล่อง วันนี้พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเจ้าหน้าที่เดินสำรวจกันต่อทั้งวัน ซึ่งพบว่าวันนี้สามารถเจาะทะลุปล่องลงไปโถงที่3แล้ว แม้จะไม่เจอตัวทั้ง13คน แต่ก็พบช่องที่คาดว่าจะเชื่อมต่อไปยังโถงที่ 4 ที่เชื่อว่าน้องๆอาจจะติดอยู่ หากเดินเลี้ยวขวามาจากทางสามแยก ซึ่งเป็นโถงขนาดใหญ่
นอกจากนี้ ทีมหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ ใช้ดาวเทียม สำรวจภาคพื้นธรณีวิทยาทางทหาร สแกนที่ถ้ำหลวงในระบบ อินฟาเรท ทรี ดี เพื่อตรวจหาสัญญาณความร้อน หากพบก็จะแสดงเป็นรูปร่างคนทันที โดยอยู่ระหว่างการรอดาวเทียม ให้เข้าวงโคจรในตำแหน่งที่วางไว้ วันนี้ทางเจ้าหน้ามี่ที้ขึ้นไปสำรวจปล่อง ได้มีการซักซ้อมเตรียมความพร้อมช่วยเหลือทั้ง13คน โดยได้ซ้อมการโรยตัว และ การลำเลียงผู้ป่วยจากรถพยาบาลขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำส่งโรงพยาบาล
ส่วนบริเวณด้านหน้าถ้ำทรายทอง เจ้าหน้าที่จากสมาคมน้ำบาดาลไทย นำเครื่องมือเจาะลงไปในดินลึกประมาณ 40 เมตร จำนวน 5 จุด จากนั้นจะใช้เครื่องอัดลมผลักดันน้ำบาดาลจากใต้ดินให้ไหลไปรวมกันในแอ่งน้ำภายในอุทยาน ก่อนใช้เครื่องสูบน้ำไทยประดิษฐ์พญานาค ที่เดินทางมาจากจังหวัดนครปฐม สูบออกไปยังพื้นที่ด้านนอก โดยนายกสมาคมน้ำบาดาลไทย เปิดเผยด้วยว่าเตรียมทำการขุดเจาะน้ำบาดาลเพิ่มอีก 5 จุด รวมเป็น 10 จุด และขณะนี้ทราบว่าปริมาณระดับน้ำภายในถ้ำลดลงแล้วกว่า 50 เซนติเมตร ถือว่าการปฏิบัติในส่วนนี้ประสบสำเร็จ
ขณะเดียวกันบรรยากาศการทำงานที่ถ้ำหลวง เอาหน้าที่ยังคงทำงานกันอยู่ นอกจากนี้ครูบาจากวัดถ้ำมังกรทอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เดินทางมีทำพิธีปัดเป่าเข้ากรรมนายเวร และทำพิธีขอให้ฝนหยุด เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทำงานกันได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ครูบาเคยฝันว่า มีคนพลัดหลงไปในถ้ำ และเมื่อเกิดเหตุจริงๆขึ้นมา จึงตั้งใจมาทำพิธี
ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ ผู้สื่อข่าว รายงานจากจ.เชียงราย