ผู้นำสหรัฐฯ เขียนจดหมายกดดัน 8 ประเทศสมาชิกนาโตให้สมทบค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมให้นาโต

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้เขียนจดหมายถึง 8 ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ได้แก่ เบลเยียม อิตาลี สเปน โปรตุเกส ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี เตือนให้ปฏิบัติตามพันธกรณีในการบริจาคเงินเป็นค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมให้แก่นาโต ซึ่งจดหมายดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากนายชาร์ลส์ มิเชล นายกรัฐมนตรีเบลเยียม ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดนาโตที่กรุงบรัสเซลส์ ระหว่างวันที่ 11-12 ก.ค. และได้แสดงความรู้สึกไม่ประทับใจจดหมายฉบับดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยกล่าวปกป้องในส่วนของเบลเยียมว่า ได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบในปฏิบัติการทางทหารของนาโตเป็นอย่างมาก แต่ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวย้ำถึงความล้มเหลวของพันธมิตรนาโตในการจัดสรรงบประมาณร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ให้แก่นาโตภายในปี 2567 โดยกล่าวหาว่า ทิ้งภาระให้สหรัฐฯ แบกรับความรับผิดชอบอย่างไม่ยุติธรรม ทั้งนี้ สหรัฐฯ จัดสรรงบประมาณใช้จ่ายด้านกลาโหมให้แก่นาโตคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 72 ขณะที่ยุโรปมีเพียง 3 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ กรีซ และเอสโตเนียที่ตอบสนองตามพันธกรณี

วันเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ ปฏิเสธแผนการถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การการค้าโลก หรือ WTO ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ มองว่า เป็นองค์กรที่ไม่เป็นธรรม ยกตัวอย่างกรณีจีนและประเทศอื่น ๆ ใช้ระบบของ WTO แสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง นอกจากนี้ นสพ.วอชิงตันโพสต์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ยุโรประบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ เคยเสนอแนะให้ฝรั่งเศสถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ อียู และหันมาลงนามข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคีกับสหรัฐฯ ในระหว่างที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง เดินทางเยือนทำเนียบขาวเมื่อเดือนเมษายน ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ มักโจมตีอียูว่า ทำการค้าไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะในวงการอุตสาหกรรมรถ อีกทั้งก่อตั้งอียูขึ้นมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐฯ

ส่วนกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ปฏิเสธที่จะยืนยันการคัดค้านรัสเซียแทรกแซงสถานการณ์ในยูเครน กรณีผนวกไครเมียเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย ได้สร้างความตกตะลึงให้แก่พันธมิตรยุโรป กระทั่งนักการทูตตะวันตก เกรงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะยินยอมอ่อนข้อให้แก่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในระหว่างการประชุมสุดยอดแบบตัวต่อตัวครั้งแรกที่กรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ ในวันที่ 16 ก.ค.

ทีมต่างประเทศ

CR: gulftoday