ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ แนะวิธีรักษาชีวิตให้รอดตายกรณีติดอยู่ในถ้ำ

28 มิถุนายน 2561, 20:25น.


สำนักข่าวบีบีซี รายงานเหตุนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่า อะคาเดมี อ.แม่สาย จ.เชียงราย 13 ราย หายไปในถ้ำหลวง ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ฝนตกหนักเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของหน่วยกู้ภัย ประชาชนส่วนมากภาวนาให้พวกเขารอดชีวิตโดยขึ้นในอยู่ในที่สูง รอการช่วยเหลือจากทีมกู้ภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตวาสิ่งที่ต่างจากนักสำรวจถ้ำมืออาชีพ คือ นักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่า คงจะไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการติดอยู่ในถ้ำนานหลายวัน ทั้งในเรื่องเสบียงอาหารและอุปกรณ์ที่จำเป็นเช่น ไฟฉาย



นายอันมาร์ เมอร์ซา ผู้ประสานงานแห่งชาติของคณะกรรมการกู้ภัยถ้ำแห่งชาติสหรัฐฯ,นายแอนดี เอวิส อายุ 70 ปี ประธานสมาคมสำรวจถ้ำสหราชอาณาจักร มีประสบการณ์สำรวจถ้ำมาแล้วกว่า 50 ปี เคยสำรวจถ้ำในประเทศไทย เมียนมาและประเทศจีน และนายบิลล์ ไว้ท์เฮาส์ จากสภากู้ภัยถ้ำของสหราชอาณาจักร แนะนำว่า นักสำรวจถ้ำจะต้องรักษาร่างกายให้อบอุ่น รักษาร่างกายไม่ให้มีภาวะขาดน้ำ พร้อมทั้งเลี่ยงอันตรายเฉพาะหน้าเช่น การถูกก้อนหินร่วงหล่นใส่ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากคือ น้ำไหลเข้าท่วมถ้ำ นายเมอร์ซาแนะนำว่า เราจะต้องหาทางขึ้นไปยังจุดที่สูงๆในถ้ำ อาจจะสังเกตดูร่องรอยว่าระดับน้ำที่ท่วมถ้ำครั้งก่อนว่าเคยท่วมถึงระดับใด อาจจะสังเกตจากดินโคลน ใบไม้หรือเลนโคลนในถ้ำ พร้อมทั้งประเมินให้ชัดว่าเราสามารถจะสำรวจถ้ำนานกี่วัน อาจจะต้องแบ่งสันปันส่วนอาหาร น้ำดื่มในแต่ละวันและการใช้ไฟฉาย



สำหรับเรื่องน้ำ แม้ว่าน้ำในถ้ำจะสกปรก แต่น้ำในถ้ำส่วนใหญ่ก็พอจะดื่มเพื่อประทังชีวิตได้ แต่ระวัง อาจจะเกิดปัญหาท้องเสียได้เช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญ แนะให้มองดูรอบๆถ้ำ หากเห็นหยดน้ำไหลจากจุดใด น้ำในจุดนั้นอาจจะเป็นน้ำสะอาดพอจะดื่มได้ ส่วนเรื่องอาหาร ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าถ้ามีอาหารติดตัวไปด้วย อย่ารับประทานให้หมดในครั้งเดียว ควรจะแบ่งเฉลี่ยรับประทานให้ได้หลายวัน สำหรับเรื่องอากาศอ็อกซิเจนภายในถ้ำ ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 คนเห็นตรงกันว่า ถ้ำส่วนใหญ่จะมีอากาศถ่ายเท เรื่องนี้จึงไม่น่าเป็นกังวล

ข่าวทั้งหมด

X