หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบการทำข้อตกลงระหว่างกระทรวงกลาโหมไทยและกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัยและพัฒนา โดยเจ้ากรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเป็นผู้ลงนามร่วมกับสหรัฐอเมริกาในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ โดยมีผลบังคับใช้ 15 ปีนับตั้งวันลงนาม ที่ผ่านมาไทยและสหรัฐฯ มีการแลกเปลี่ยนกันมายาวนาน แต่งานด้านวิจัยยังมีไม่มากนัก จึงต้องมีการจัดทำกรอบที่ชัดเจนเพื่อแลกเปลี่ยนงานวิจัย ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการพัฒนาเรื่องการวิจัย เพื่อลดรายจ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของประเทศ ขณะที่สหรัฐฯเองก็ยอมรับเรื่องเทคโนโลยีหุ่นยนต์และอาหารสำเร็จรูปภาคสนามของไทย
ที่ประชุมยังเห็นชอบอนุมัติต่อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุกว่า 1,500 ไร่ ที่ต.บางพระ และต.ทุ่งสุขลา จ.ชลบุรี ที่ทำสัญญาไว้กับบริษัทไทยออยส์ ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาในวันที่ 10 กันยายน 2565 นี้ โดยครม.เห็นชอบให้ต่อสัญญาออกไปถึงวันที่ 10 กันยายน 2595 ซึ่งเป็นไปตามที่คณะกรรมการพิจารณาเรื่องเอกชนร่วมลงทุนกับรัฐเห็นชอบให้เช่าที่ต่อไป เพราะคุ้มค่าต่อผลประโยชน์ของรัฐ และบริษัทไทยออยล์เองมีความมั่นคงทางธุรกิจ โดยกรมธนารักษ์ได้จ้างบริษัทที่ปรึกษามาคำนวณราคาความคุ้มค่าซึ่งคาดว่าจะได้ประมาณ 15,000 ล้านบาท แต่ค่าเช่าระยะยาวของบริษัทไทยออยล์อยู่ที่ 20,000 กว่าล้านบาท จึงถือว่ารัฐเป็นผู้ได้ประโยชน์ อันเป็นไปตามหลักการที่นายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องให้สังคมมั่นใจไม่ให้เกิดข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการฮั้วหรือการมีผลประโยชน์ร่วมกัน