*เศรษฐีหารือทนายรับมือภาษีมรดก/แยกจ.บัวใหญ่ไม่ง่าย/เชียร์ฟุตบอลหญิงไทยเจอมัลดีฟ์ อินชอนเกมส์*

*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30น.

+++การพิจารณาเก็บภาษีมรดกที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา  พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่ากังวลเพราะรัฐบาลจะไม่ทำให้ผู้มีรายได้น้อยเดือดร้อน เพราะมีมาตรการยกเว้นต่างๆ อยู่แล้ว ไม่ได้เก็บภาษีทุกคน ทุกอย่างมีข้อยกเว้นส่วนที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบต่ออายุการลดภาษีบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลออกไปอีก 1 ปี นอกจากนี้ยังยืดอายุลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เหลือการจัดเก็บในอัตรา 20% ของกำไรสุทธิ มีผลบังคับใช้ในรอบบัญชีที่เริ่มภายในหรือเริ่มหลังวันที่ 1 ม.ค. 2558 แต่ ไม่เกิน 31 ธ.ค. 2558

+++ขณะเดียวกัน รายงานข่าว จากหุ้นส่วนสำนักงานกฎหมาย เปิดเผยว่า ในช่วง 1 เดือนมีลูกค้าเจ้าของกิจการรายใหญ่จำนวนมากเข้ามาหารือ ขอคำปรึกษาในการวางแผนภาษี หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมีการจัดเก็บภาษีมรดกในอัตรา ร้อยละ10 โดยมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่รับมรดกไม่ถึง 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี กลุ่มลูกค้าเหล่านี้เป็นเศรษฐีชั้นนำที่มีทรัพย์สินจำนวนมาก ต้องการวางแผนการเงินก่อนจะมีการจัดเก็บภาษี โดยส่วนหนึ่งต้องการให้มีการจัดการแบ่งมรดกให้ลูกหลานก่อนกฎหมายจะมีผลบังคับ บางรายต้องการเปลี่ยนทรัพย์สินเป็นเงินสด และมีการแปลงทรัพย์สินเป็นหุ้นและมีการขายให้บุตรหลานในตลาดหุ้นบ้างแล้ว

+++นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ร่างกฎหมายเก็บภาษีมรดกอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาและกรมสรรพากร จะนำข้อสังเกตของรัฐบาลไปพิจารณาปรับปรุงก่อนเสนอร่างกฎหมายให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีกับผู้ไม่มีฐานะแต่ได้รับมรดก ที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์จนมีมูลค่าเกินต้องเสียภาษี แต่ไม่มีเงินทำให้ต้องไปขายทรัพย์สิน ก็จะปรับปรุงไม่ให้เดือดร้อน นอกจากนี้ จะแก้ไขไม่ให้ซ้ำซ้อนชำแหละกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

+++หลังสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา มีมติ 32 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง เห็นชอบการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ พ.ศ... เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเพื่อแยกพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.นครราชสีมา ประกอบด้วย อ.บัวใหญ่ บ้านเหลื่อม ประทาย คง โนนแดง แก้งสนามนาง บัวลาย และสีดา ไปเป็น จ.บัวใหญ่ เป็นจังหวัดที่ 78 ของประเทศ ท่ามกลางเสียงเห็นด้วยและคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่ จนทำให้ นายกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท ประธานสภา อบจ.นครราชสีมา ต้องยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งไป เมื่อวันที่ 14 กันยายนเพื่อลดกระแสความขัดแย้งที่เกิดขึ้น กลุ่มคัดค้านการแยกจังหวัดได้บุกเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดโคราชเพื่อ คัดค้าน พร้อมกับตั้งโต๊ะล่ารายชื่อ 50,000 รายชื่อให้ยับยั้งเรื่องดังกล่าว

+++รายงานข่าวแจ้งว่า การเคลื่อนไหว ครั้งนี้ นายโกศล ปัทมะ อดีต สส. นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย น้องชายของ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ให้การ สนับสนุนมวลชน เนื่องจากต้องการผลักดัน ให้มีการจัดตั้ง จ.บัวใหญ่ มาอย่างต่อเนื่อง  นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ เลขาธิการหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ความเห็นว่า ความจริงเรื่องนี้คนในพื้นที่ 8 อำเภอ ควรเคลื่อนไหวผลักดันด้วย ตัวเอง เพราะพอส่งไปให้สภา อบจ. จะทำให้ กลายเป็นเรื่องการเมืองไป 100% ทำให้คนไม่ไว้ใจและเกิดแรงต่อต้านสูงขึ้น ยิ่งดู จากท่าทีของ นายก อบจ. และ สจ. ที่เริ่ม กลับลำหลังจากเกิดกระแสต่อต้านก็ยิ่งชัดเจนขึ้น

+++การชุมนุมในที่สาธารณะวันนี้ ต้องติดตาม  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดสัมมนาเชิงวิชาการกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะ เวลา 09.00-12.30 น. ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ซึ่งกฎหมายฉบับนี้กำลังนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อใช้ควบคุมการชุมนุมในทุกกรณี

+++กรณี นายโทมัส ฟุลเลอร์ ผู้สื่อข่าวนิวยอร์กไทม์ส เขียนบทความลงบนเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 กันยายนในหัวข้อ "อดีตนายกรัฐมนตรีไทยผู้เป็นทั้งที่รักและถูกเกลียดชัง ถูกลบออกจากบทเรียน" นายถนอม อานามวัฒน์ ผู้เขียนหนังสือแบบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย กล่าวในบทความชิ้นนี้ว่า แม้มีประชาชนหลายคนอาจไม่ชอบ "ทักษิณ" แต่ก็ไม่ควรลบชื่อ "ทักษิณ" ออกจากประวัติศาสตร์เนื่องจากประวัติศาสตร์คือเรื่องจริง ซึ่งพวกเราสามารถเรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น และข้อผิดพลาดได้ ดังนั้น จึงต้องบอกให้ลูกหลานให้ได้รับรู้

++++นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ปฏิเสธว่าไม่ได้รับคำสั่งดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบดูก่อนว่าหนังสือแบบเรียนเล่มนี้จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ใด และมีการกระทำดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่มีนโยบายให้ถอดชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณออกจากหนังสือแบบเรียนประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะในระดับชั้นใด นักเรียนยังคงใช้หนังสือแบบเรียนเดิมตามปกติ

+++นายวินัย รอดจ่าย ประธานคณะกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง กล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อน บางช่วงผู้เขียนเห็นว่าควรใส่ชื่อนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นลงไป ขณะที่บางตอนใส่แค่ปี พ.ศ.ก็พอ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯอยู่นั้น มีการกล่าวถึงโดยใส่แค่ปี พ.ศ.เท่านั้น หนังสือเล่มนี้พิมพ์ตั้งแต่ปี 2553 เป็นหนังสือเรียนช่วงชั้น ม.4-5-6 จึงไม่ใช่แบบเรียนใหม่ ยืนยันว่าไม่มีใบสั่งให้ทำอะไรแบบนี้แน่นอน ตำราเรียนประวัติศาสตร์ เนื้อหาต้องเป็นประวัติศาสตร์ ใครเป็นนายกฯก็ต้องว่าไปตามนั้น จะมาลบได้อย่างไร

++++พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือร่วมกับนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามทางที่ กระทรวงเสนอให้เพิ่มชั่วโมงเรียนวิชาพลศึกษาของ นักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จากเดิม 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็น 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รวมถึงจัดกิจกรรมกีฬาหลังเลิกเรียน และการส่งเสริมให้มีมัคคุเทศก์ เมื่อเพิ่มชั่วโมงเรียนวิชาพลศึกษา สพฐ.จำเป็นต้องปรับลดเวลาเรียนวิชาอื่นลง เพื่อไม่ให้เป็นภาระเด็ก จากเดิมที่เรียนมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะเด็กเล็ก ระดับประถม อนุบาล เป็นเด็กที่อยู่ในช่วงวัยกำลังเจริญเติบโตทั้งร่างกาย ปัญญา ความคิด และจิตใจ จึงต้องทำทั้ง 2 อย่างควบคู่กัน

+++เครือข่ายองค์กรสุขภาพ อาทิ ชมรมแพทย์ชนบท ชมรมเภสัชชนบท กลุ่มศึกษาปัญหายา เครือข่ายผู้ติดเชื้อ ฯลฯ จะเชิญ พล.ท.ศุภกร สงวนชาติศรไกร ประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม หารือถึงข้อห่วงใยและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ยา

+++ 10.00 น. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะแถลงเรื่อง"ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค." ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ต่อมา 13.00 น. ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาหัวข้อ "ประเมินเศรษฐกิจพิชิตปัจจัยเสี่ยงรับมือทั้งตลาดเงินตลาดหุ้นและเงิน" ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ถัดมาเวลา14.30 น. คณะบริหารธุรกิจและคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์- ก.ล.ต. จัดสัมมนาหัวข้อ"สำรวจสุขภาพบริษัทจดทะเบียน" ณ อาคาร ก.ล.ต. วิภาวดีรังสิต

+++จอดำ วันนี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เปิดเผยว่า วันนี้จะเป็นวาระการประชุมบอร์ดกสทช.ในวันที่ 17 ก.ย.2557นี้ โดยนำมาพิจารณาคู่กับหนังสือที่นายประวิทย์ มาลีนนท์ ตัวแทนช่อง 3 มายื่นก่อนหน้านี้ที่ให้ทบทวนมติบอร์ดกสท. เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2557 ที่มีมติคำสั่งทางปกครองให้ใช้มาตรการบังคับทางปกครองกับผู้รับใบอนุญาตโครงข่ายเคเบิ้ล ดาวเทียม ให้หยุดนำทีวีที่ออกอากาศในระบบอนาล็อกไปออกอากาศ ภายใน 15 วัน

+++ส่วนเมื่อวานนี้  มีการประชุมร่วมระหว่าง ผู้บริหารช่อง 3 ประชุมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) 4 คน เป็นครั้งแรก ใช้เวลารวมกว่า 2 ชั่วโมง พันเอก นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการ กสท. เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกันในวันนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป เพื่อหาวัตถุประสงค์เดียวกันแนวทางแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชน ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น ด้านนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากช่อง 3 เรียกร้องให้ กสท. เยียวยาค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นการเรียกร้องที่มากเกินไป ช่อง 3 ยินดีออกอากาศคู่ขนานในช่อง 33 เอชดี แต่ภายใต้เงื่อนไขว่า กสท. ต้องยินยอมตามข้อเสนอที่ช่อง 3 ยื่นเสนอมาทั้งหมด

+++โดยส่วนใหญ่คือเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการออกอากาศคู่ขนาน โดย กสท. เห็นว่ามากไป จึงต้องประชุมบอร์ดเพื่อหารือกันอีกครั้งในวันที่ 18 ก.ย. เพื่อให้ได้ข้อสรุปทันวันที่ 28 ก.ย. ที่สิ้นสุดระยะเวลา 15 วันที่โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวีจะต้องยุติการออกอากาศช่อง 3 สิ่งที่ กสท. จะช่วยได้ คือ การยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและเงินที่ต้องนำส่งกองทุนเพื่อพัฒนากิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ รวมร้อยละ 4 แต่หากยกเว้นให้ช่อง 3 ก็จะต้องดำเนินการลักษณะเดียวกันกับช่อง 7 ซึ่งยอมออกอากาศคู่ขนานไปก่อนหน้าแล้ว

+++เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ระดมกำลังปูพรมเข้าตรวจค้นจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดของนางพรกมล แสง เหลี่ยว หรือซ้อหมิง เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุมที่บ้านพักย่านเพชรเกษมซอย 36 เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อคืนวันที่ 15 กันยายน โดยเข้าตรวจค้นพร้อมกัน 72 จุดทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคใต้ 28 จุด ภาคเหนือ 12 จุด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จุด ภาคกลาง 28 จุด กทม. 1 จุด เรือนจำ 2 จุด

+++รวมถึงเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์ที่ฟาร์มจระเข้ศรีอยุธยา เลขที่ 90/1 หมู่ 11 ต.หนองขนาก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ของนางสุจิตรา เรืองเนตร อายุ 40 ปี ราคาประมาณ 146 ล้านบาท จระเข้ 100,000 ตัว มูลค่าประมาณ 470 ล้านบาท รถยนต์ 10 คัน มูลค่าประมาณ 26 ล้านบาท เงินสดประมาณ 1.4 ล้านบาท ทองรูปพรรณ มูลค่าประมาณ 2.7 ล้านบาท อายัดเงินในบัญชี รวมยอดเงินประมาณ 17 ล้านบาท รวมทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 653 ล้านบาท รวมการตรวจยึดและอายัดทรัพย์ทั่วประเทศในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

+++เชียร์ไทย  วันนี้ฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทย จะลงสนามนัดที่ 2 ดวลกับ มัลดีฟส์ ในเวลา 12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ช่อง NBT 11 ถ่ายทอดสดหลังนัดแรก แพ้เจ้าภาพ เกาหลีใต้ 0-5 นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง กล่าวว่า หากชนะในนัดนี้จะมอบกำลังใจ ให้น้องๆ 300,000 บาท