ปธ.กรธ.ชี้เงื่อนเวลาเป็นปัญหาใช้ไพมารีโหวตไม่ได้

หลังหลายฝ่ายถกเถียงกันเรื่องไพรมารีโหวต นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เปิดเผยว่า เดิมที่กรธ.ร่างไปนั้นไม่มีเรื่องไพรมารีโหวต แต่เมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เสนอแก้ไขเรื่องนี้ข้ามา กรธ.ก็ไม่ทักท้วง แต่มองว่าถ้าไพรมารีโหวต เมื่อมีเรื่องติดขัดต้องแก้ใหม่แล้วแก้ไม่ได้หรือเกิดเหตุจวนตัว เช่นนี้ก็ต้องทำการทบทวนใหม่ คือ การหาหนทางทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด ส่วนปัญหาที่ว่าอาจทำไพรมารีโหวตไม่ทันจะกลายเป็นเรื่องเงื่อนเวลาที่ต้องมาคิดว่าจะแก้อย่างไรให้เหมาะสม โดยไม่มีใครบอกได้ว่าจะต้องใช้ม.44 เข้ามาจัดการเรื่องนี้หรือไม่ แต่ในมุมกฎหมายใช้ได้

ส่วนอาจใช้วิธีอื่นนอกจากการทำไพรมารีโหวต นาย มีชัย ระบุว่า หากคิดวิธีอื่นได้ก็ให้มาเทียบเคียงดู แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องพยายามสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนให้ได้  ส่วนตัวไม่มีโมเดลอื่นในใจ และหากไปดูบทเฉพาะกาลที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แก้ไขไว้ก็จะพบว่ามีการผ่อนคลายเรื่องไพรมารีโหวตมาเยอะแล้ว ส่วนข้อเสนอของพรรคการเมืองให้ยกเลิกไพรมารีโหวต ตัวเองก็มองว่าเสียดาย เพราะกว่าจะคิดได้เสียเวลากันมานาน พร้อมมองว่าแต่ละข้อล้วนมีข้อดีและข้อเสีย คดว่า ทุกฝ่ายจึงควรช่วยกันคิดเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ได้ นาย มีชัย ยังชี้ว่า ประเทศกำลังอยู่ในช่วงปฏิรูป ถ้าทุกคนมัวแต่เถียงกันก็จะไม่เกิดประโยชน์ แต่ควรช่วยกัน ซึ่งรวมไปถึงสื่อมวลชนที่ก็สามารถช่วยประเทศได้

ส่วนที่หลายพรรคการเมืองเสนอว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ นาย มีชัย ระบุว่า สามารถแก้ได้แต่ก็มีเงื่อนไขต่างๆที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งถ้าจะแก้ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและอย่างน้อยต้องบอกกรอบการแก้ไขให้ประชาชนรับรู้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร รวมทั้งต้องฟังความเห็นของทุกฝ่าย

สำหรับการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)นายมีชัย กล่าวว่าต้องมีกรอบว่าหากจะทำแล้วจะวางแผนอย่างไร ยืนยันว่าตัวเองในฐานะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ได้รู้สึกอะไรกับการที่พรรคการเมืองเสนอแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพราะรัฐธรรมนูญย่อมมีทั้งส่วนที่คนชอบและไม่ชอบ ไม่มีใครจะเอาตามใจตัวเองได้ทั้งหมด ส่วนที่มีผู้บอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ยากนั้น ส่วนตัวก็เคยประสบกับรัฐธรรมนูญที่แก้ยากมาแล้ว ขอให้ทุกฝ่ายฟังความเห็นกัน อะไรที่สอดคล้องและตกลงกันได้ก็จะทำให้เดินหน้าได้