หลังจากที่เมื่อเช้านี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกปปส. ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดา ตามหมายนัดของศาล เพื่อรับฟังการตรวจพยานหลักฐาน จากคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกลุ่มกปปส.ในฐานะจำเลยในข้อหากบฎ, อั้งยี่ซ่องโจร, บุกรุกสถานที่ราชการ และขัดขวางการเลือกตั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า ศาลได้อ่านข้อกล่าวหาให้จำเลยฟัง ซึ่งจำเลยทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา และยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดตามที่อัยการสั่งฟ้อง แต่จำเลยได้ปกป้องพิทักษ์รัฐธรรมนูญจากระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นสิทธิของประชาชนที่จะออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญ และฝ่ายจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ส่งคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในขณะที่ถูกฟ้องว่ากระทำความผิด ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยไว้แล้วว่าการชุมนุมของกลุ่มเป็นการชุมนุมโดยสงบ ซึ่งศาลอนุญาตให้ทำคำร้องได้ เชื่อว่าศาลจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
ส่วนการนัดหมายการพิจารณาคดี ได้ถามอัยการต่อหน้าศาลว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งอัยการแถลงว่าคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ถ้าได้ตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องในช่วงใดก็จะขอให้ศาลพิจารณารวมเป็นคดีเดียวกัน และมีผู้ต้องหาอีก 28 คนที่อัยการต้องนำมาส่งฟ้อง ดังนั้นอัยการ จึงยังไม่ทราบว่าจะนำผู้ต้องหามาส่งฟ้องได้ทั้งหมดเมื่อใด ตัวเองและทนายความจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลออกคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว จนกว่าอัยการจะนำผู้ต้องหามาส่งฟ้องครบถ้วน ทั้งนี้ศาลมีคำสั่งให้รวมคดีในสามชุดแรกที่มีตัวเองพร้อมแกนนำ 9 คนเป็นจำเลยชุดที่หนึ่ง นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก พร้อมพวก 14 คนเป็นจำเลยชุดที่สอง และเรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์และนายมั่นแม่น กะการดี เป็นจำเลยชุดที่สาม
สำหรับการนัดครั้งต่อไปศาลจะนัดทนายฝ่ายโจทก์และจำเลยมาตรวจสอบเอกสาร ซึ่งจำเลยไม่ต้องเดินทางมา ส่วนการนัดพิจารณาคดีอัยการได้แถลงต่อศาลว่าอย่างเร็วที่สุดอัยการว่างอีกครั้งช่วงเมษายน 2562 ส่วนจะว่างตรงกันหรือไม่จะแจ้งให้จำเลยทราบ สำหรับพยานฝ่ายโจทก์ อัยการได้แจ้งต่อศาลไว้ประมาณ 800 ปาก แต่ศาลอนุญาต 80 ปาก ส่วนพยานฝ่ายจำเลย ได้ขอไว้ 100 ปาก ศาลจึงกำหนดให้ฝ่ายโจทก์และจำเลยสืบพยานได้ฝั่งละ 30 นัด
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร