ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายธนกฤต ประกอบ หรือวุธ ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพนางสาวลักษณา กำลังเก่ง หรือเมย์ มาสอบปากคำที่สน.มีนบุรี ซึ่งนายธนกฤตรับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่าหั่นศพและนำไปทิ้งอยู่ในป่าซอยสามวา ตรงข้ามโรงงานที่นอนดาลิ่ง เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน
วันนี้นายสมคิด จะมัง อายุ 59 ปี ลุงของผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่สน.มีนบุรี และเปิดเผยว่า ผู้ตายเคยมีครอบครัวมาก่อนและมีลูก 2 คน ก่อนจะเลิกรากันไป จากนั้นนางสาวลักษณาก็เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ จึงได้รู้จักกับนายธนกฤต ทั้งเคยพามาพบพ่อแม่ ทางครอบครัวรับรู้ว่าคบหากันประมาณ 1-2 ปี แต่ไม่รู้ว่ามีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร จนกระทั่งตำรวจโทรศัพท์มาหาญาติที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงทราบว่าหลานสาวเสียชีวิต จึงเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดงหัวเรือ ตำบลนาใหญ่ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
นายสมคิด ยังขอฝากเรื่องนี้ไปถึงนายกรัฐมนตรีและผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง เรียกร้องให้มีการลงโทษประหารชีวิต มิเช่นนั้นก็จะเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก เพราะปัจจุบันโทษหนักสุดก็แค่จำคุก จึงทำให้หลายๆ คนไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และฝากไปถึงผู้ต้องหาด้วยว่า เมื่อรู้ว่าหลานเสียชีวิตก็เสียใจที่สุดแล้ว ยิ่งพอมารู้ว่าหลานโดนหั่นศพด้วยก็ยิ่งรับไม่ได้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้ผู้ต้องหารับโทษประหารชีวิต ส่วนสภาพจิตใจของครอบครัวจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครรับได้
ในช่วงบ่ายวันนี้ทางพลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาที่สน.มีนบุรี เพื่อแถลงข่าว และจะคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่แมนชั่นแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ห้องพักของนายธนกฤต ตั้งอยู่ในซอยสิงหบุราณุกิจ 10 เขตมีนบุรี และจุดที่ทิ้งชิ้นส่วน
สำหรับที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ยังไม่ให้รับศพของนางสาวลักษณา ไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา
เบื้องต้นทางแพทย์ ได้เก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอของของครอบครัว ไปแล้ว ซึ่งจะต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ ว่าตรงกับผู้ตายหรือไม่ถึงจะสามารถนำศพออกไปได้
...
ผสข.ปภาดา พูลสุข