ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพลสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “โทษประหารชีวิต ควรหยุดหรือไปต่อ” สำรวจระหว่างวันที่ 21 – 22 มิถุนายน 2561 กลุ่มตัวอย่าง 1,251 หน่วยตัวอย่าง
เมื่อถามถึงบทลงโทษที่ผู้กระทำความผิดในคดีร้ายแรงควรได้รับ ระหว่าง “โทษจำคุกตลอดชีวิต” หรือ “โทษประหารชีวิต” พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 80.50 ระบุว่า โทษประหารชีวิต
ร้อยละ 18.86 ระบุว่า โทษจำคุกตลอดชีวิต
และร้อยละ 0.64 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ความคิดเห็นของประชาชนต่อ “บทลงโทษประหารชีวิต” จะมีผลทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทย มีความศักดิ์สิทธิ์หรือน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่ คือ ร้อยละ 85.29 ระบุว่า ทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์ และน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น เพราะ แสดงให้เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยมีความเด็ดขาด ทำให้ประชาชนมีความเกรงกลัวไม่กล้าที่จะกระทำความผิดอีก
ร้อยละ 12.07 ระบุว่า ไม่ได้ทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์และน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น เพราะ กระบวนการยุติธรรมไม่มีความโปร่งใส มีช่องโหว่ทางกฎหมาย และการปฏิบัติหน้าที่ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
และร้อยละ 2.64 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับ “โทษประหารชีวิต” จะทำให้คดีอาชญากรรมลดลงหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 79.05 ระบุว่า จะทำให้คดีอาชญากรรมลดลง
รองลงมา ร้อยละ 15.83 ระบุว่า จะทำให้คดีอาชญากรรมเท่าเดิม
ร้อยละ 2.88 ระบุว่า จะทำให้คดีอาชญากรรมเพิ่มขึ้น
และร้อยละ 2.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ความคิดเห็นของประชาชนต่อ “โทษประหารชีวิต” ว่าควรมีต่อไปหรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 92.49 ระบุว่า ควรมีโทษประหารชีวิตต่อไป เพราะเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และเป็นบทเรียนเตือนใจให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือคิดจะกระทำความผิด มีความเกรงกลัว เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม และเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับครอบครัวที่สูญเสีย
ร้อยละ 7.51 ระบุว่า ไม่ควรมี โทษประหารชีวิตต่อไป เพราะ ไม่ได้ทำให้คดีอาชญากรรมลดลง ควรให้โอกาสสำหรับผู้ที่กระทำผิด เนื่องจากบางคนอาจจะทำเพราะเหตุบันดาลโทสะ หรือไม่ได้เจตนา ขณะที่บางส่วนระบุว่า ให้จำคุกตลอดชีวิตน่าจะดีกว่า
ควรมีโทษประหารชีวิตต่อไป เกี่ยวกับคดีที่ผู้กระทำผิดสมควรได้รับโทษประหารชีวิตมากที่สุด พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.45 ระบุว่า เป็นคดีฆ่าข่มขืน (ข่มขืนแล้วฆ่าหรือรุมโทรมจนเสียชีวิต)
ร้อยละ 23.95 ระบุว่า เป็นผู้ที่กระทำผิดซ้ำในคดีที่ร้ายแรง เช่น ฆ่าคนตาย ข่มขืน
ร้อยละ 16.68 ระบุว่า เป็นคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา
ร้อยละ 2.42 ระบุว่า เป็นคดียาเสพติด
ร้อยละ 0.95 ระบุว่า เป็นคดีก่อการร้าย
ร้อยละ 0.86 ระบุว่า เป็นคดีทุจริตคอร์รัปชัน
และร้อยละ 0.69 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
...