ประธานาธิบดีเอ็มเมอร์สัน มนันกักวา ของซิมบับเว รอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารมาได้อย่างหวุดหวิด หลังเกิดเหตุระเบิดระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่สนามกีฬา “ไวท์ ซิตี้” ในเมืองบูลาวาโย เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คน สาหัส 3 คน โดยมีบางคนต้องสูญเสียแขนขา ในจำนวนผู้บาดเจ็บมีรองประธานาธิบดี 2 คน ภริยารองประธานาธิบดี รองประธานสภาผู้แทนราษฎร รมต. และประธานพรรค “ซานู-พีเอฟ” เจ้าหน้าที่พรรค และพนักงานสถานีโทรทัศน์ “ซีบีซี” รวมอยู่ด้วย 2 คน สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนผู้สนับสนุน เหตุระทึกขวัญเกิดขึ้นขณะประธานาธิบดีมนันกักวา วัย 75 ปี กำลังก้าวลงจากโพเดียมหาเสียง ซึ่งเขาเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า เขาอาจเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุ เพราะเคยตกเป็นเป้าหมายเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วหลายครั้ง และในครั้งนี้เหตุระเบิดเกิดขึ้นห่างจากตัวเขาไม่มากนักเพียงแต่มันยังไม่ใช่เวลาของเขา ขณะที่โฆษกประธานาธิบดีซิมบับเว แถลงว่า มีคนบางกลุ่มพยายามเอาชีวิตประธานาธิบดีหลายครั้งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีมนันกักวายืนกรานผ่านการโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คว่า ซิมบับเวเป็นประเทศสุขสงบ เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการกระทำรุนแรงของคนไร้สามัญสำนึก และจะไม่ปล่อยให้การกระทำอันขลาดเขลาเช่นนี้ขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ โดยเป็นที่สังเกตว่า เมืองบูลาวาโยเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคฝ่ายค้าน แต่นายเนลสัน ชามิซา ผู้นำพรรคฝ่ายค้านขบวนการเพื่อการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย วัย 40 ปี ได้ออกมาร่วมประณามการโจมตีครั้งนี้ โดยทวีตข้อความระบุว่า วงการเมืองซิมบับเวจะต้องไม่มีเนื้อที่ให้กับการก่อเหตุรุนแรง
สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีก 5 สัปดาห์ข้างหน้ามีขึ้นภายหลังประธานาธิบดีโรเบิร์ต มูกาเบ ซึ่งปกครองประเทศมานาน 37 ปีลาออก หลังถูกทหารยึดครองอำนาจในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายน โดยนายมนันกักวาก้าวขึ้นสู่อำนาจปกครองซิมบับเวในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี นายมนันกักวา ซึ่งรับปากว่าจะจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม เพื่อหาทางปรับปรุงความสัมพันธ์กับนานาชาติ ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อทศวรรษ 1980 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตราว 20,000 คน
...
(0745 F171)