รอยเตอร์รายงานว่า องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ํามัน(โอเปก)ซึ่งอยู่ระหว่างประชุมสมาชิกรวม 14 ประเทศในกรุงเวียนนา ออสเตรียในวันนี้ มีแนวโน้มว่าจะเดินหน้าไปสู่แผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือร้อยละ 1 ของอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลก หลังผู้นำกลุ่มคือซาอุดิอาระเบียสามารถโน้มน้าวให้คู่ปรับอย่างอิหร่านผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มโอเปก ให้หันมาร่วมมือกับซาดุอิอาระเบีย โดยนายบิญาน ซานเกเนห์ รัฐมนตรีกระทรวงปิโตรเลียมของอิหร่านพูดเป็นนัยกับนักข่าว หลังการพบปะกับนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบีย ก่อนการประชุมในวันนี้ว่า ทั้งสองประเทศมีทัศนะตรงกันในบางประเด็น โดยอิหร่านเห็นว่าควรจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกเล็กน้อย บ่งชี้ว่าทั้งสองประเทศอาจจะยอมผันกันในระดับหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ผู้บริโภครายใหญ่เช่นจีน อินเดียและสหรัฐฯขอให้กลุ่มโอเปกลดราคาน้ำมันดิบและหาทางป้องกันไม่ให้ขาดแคลนน้ำมันดิบในตลาดโลก ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก โดยหลักการกลุ่มโอเปกจะต้องทำข้อตกลงโดยได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกทั้งหมด แต่ที่ผ่านมากลุ่มโอเปกเคยทำข้อตกลงการเพิ่มกำลังการผลิตโดยไม่ได้รับเห็นพ้องจากอิหร่าน ที่วิจารณ์เรื่องนี้มาตลอดว่าไม่เห็นด้วยเนื่องจากอิหร่านได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯมาตลอด
เมื่อปีที่แล้วโอเปกและพันธมิตรตกลงจะผลิตน้ำมันดิบราว 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งมีส่วนช่วยปรับสมดุลในตลาดโลกตลอด 18 เดือนที่ผ่านมาและช่วยให้ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปที่ระดับ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากราคาต่ำสุดในปี 2559 ที่ 27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล