นายแพทย์ยงยุทธ์ มัยลาภ โฆษกรัฐบาล พร้อมด้วย พันเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกฯ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการทางการเมือง ซึ่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งพล.อ.วิลาศ อรุณศรี อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งแต่งตั้ง นพ.ยงยุทธ มัยลาภ เป็นโฆษกรัฐบาล และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เป็นรองโฆษกรัฐบาล
ส่วนการมอบหมายงานรองนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถดำเนินงานได้ ให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทน ตามลำดับประกอบด้วย พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ พลเอกธนะศักดิ์ ปฎิมาปกรณ์ และ นายวิษณุ เครืองาม
เรื่องค่าตอบแทน ของผู้ช่วยรัฐมนตรี ที่ประชุมครม.ได้ให้กระทรวงการคลังปรับลดจาก ตำแหน่งละ 63,800 บาท ให้เหลือ ตำแหน่งละ 50,000 เนื่องจากเห็นว่าเป็นค่าตอบแทนที่สูงเกินความจะเป็น ซึ่งทำให้รัฐบาลสามารถลดค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้กว่า 400,000 บาท
ส่วนการเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศของหน่วยงานต่างๆ นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดเงื่อนไขการเดินทางไปดูงาน ว่าจากนี้จะต้องมีการส่งรายงานผลที่ได้จากการดูงานต่างประเทศ เพื่อส่งให้หน่วยงานต้นสังกัดรับทราบ
นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.มีมติ ให้ต่ออายุพระราชกำหนดฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ ออกไปตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ถึง 19 ธันวาคม 2557 เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย
ส่วนแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการ ได้ชี้แจงการทำงานว่า ภายในปลายเดือนกันยายนจะมีรายละเอียดแผนการจัดการน้ำทั้งหมด และในปลายเดือนตุลาคม จะมีแผนบริหารจัดการน้ำฉบับสมบูรณ์พร้อมใช้งาน ซึ่งสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน พบว่า มีพื้นที่ ที่ต้องเฝ้าระวัง น้ำท่วม เนื่องจากพบ มรสุมความกดอากาศต่ำ และ อิทธิพลจากพายุใต้ฝุ่น เช่น จังหวัด เชียงใหม่ เชียงรายแพร่ ลำพูน และจังหวัดใกล้เคียง ส่วนปัญหาการขาดแคลนน้ำ ให้เฝ้าระวังในจังหวัด แพร่ พิจิตร นครสวรรค์ นครราชสีมา และ สุรินทร์
ส่วนภารกิจนายกรัฐมนตรีในเวลา 13.30 น.วันพรุ่งนี้ จะมีการมอบนโยบายให้แก่ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารระดับสูง จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เข้าในการแถลงนโยบายของรัฐบาล และนำไปจัดทำแผนการปฏิบัติงาน
...ผสข.บุศรินทร์ วรสมิทธิ์