ไม่ใช่หลักฐานใหม่ ปปช. ไม่รื้อคดีสลายการชุมนุม นปช.ปี53

22 มิถุนายน 2561, 12:31น.


นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงานป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติไม่รื้อฟื้นคดีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยื่นหลักฐานใหม่ต่อป.ป.ช.เพื่อให้รื้อฟื้นคดีสลายการชุมนุมนปช.ปี 2553 ที่ป.ป.ช.เคยยกคำร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีไม่มีความผิดในการสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มนปช.



คณะกรรมการป.ป.ช.เห็นว่าประเด็นสั่งใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธปืนติดตัว เพื่อเข้าขอคืนพื้นที่จากกลุ่มนปช.จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ปรากฎข้อเท็จจริงว่าเป็นช่วงที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงและการชุมนุมของ นปช.เป็นการชุมนุมที่ไม่ปกติ ทำให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) จำเป็นต้องเข้าขอคืนพื้นที่ ทั้งนี้ หากภายหลังพิสูจน์ได้ว่าการเข้าขอคืนพื้นที่ เจ้าหน้าที่ใช้อาวุธเกินความจำเป็น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต้องรับผิดชอบ ซึ่งในที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการตามกฎหมาย



สำหรับประเด็นที่นปช.อ้างว่ามีบุคคลที่มีอาวุธปืนปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นการกล่าวอ้างไม่เป็นข้อเท็จจริง รวมทั้งประเด็นที่นปช.เปรียบเทียบการสลายการชุมนุมระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ ปี 2551 กับกลุ่ม นปช.ปี 2553 ว่ามีความแตกต่างกันนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าการชุมนุมของนปช.ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ และมีบุคคลที่มีอาวุธปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม จึงจำเป็นที่เจ้าหน้าที่ต้องสลายการชุมนุมเพื่อความสงบของบ้านเมือง และเจ้าหน้าที่สามารถนำอาวุธติดตัวได้ เพื่อป้องกันตัวตามหลักสากล อีกทั้งยังพบว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีการพกพาอาวุธติดตัวปะปนในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย  การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สกัดกั้นไม่ใ้ห้รัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และไม่ได้วางแผนมาก่อน ต่างจากการสลายการชุมนุมกลุ่มนปช.เพื่อให้เกิดความสงบสุขของบ้านเมือง พิจารณาวางแผนอย่างเป็นลำดับขั้นตอนเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก



เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า การสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และพวกมีความผิดในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งระดับนโยบายตามความผิดทางอาญา มาตรา 157 ส่วนกรณีของนายอภิสิทธิ์ การกระทำไม่มีมูลความผิดทางอาญาและได้ส่งเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทหารกรณีที่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ป.ป.ช.จึงยืนยันว่าการวินิจฉัยเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานชัดเจน



ขณะเดียวกัน หลักฐานที่นายณัฐวุฒิยื่นต่อป.ป.ช.ไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ ดังนั้น ป.ป.ช.จึงไม่สามารถรื้อฟื้นคดีได้ และส่งหลักฐานที่นายณัฐวุฒิยื่นเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช. ไปให้ดีเอสไอพิจารณารวมกับคดีในส่วนของนายทหารระดับสูงและ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ ที่ก่อนหน้านี้ป.ป.ช.เคยส่งกลับไปให้ดีเอสไอดำเนินการในส่วนเจ้าหน้าที่



นายวรวิทย์ ยืนยันว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่เคยละเลยกรณีที่มีผู้เสียชีวิต แต่เรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของดีเอสไอ ซึ่งป.ป.ช.จะติดตามและประสานอย่างใกล้ชิด ยืนยันว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาตามพยานหลักฐานที่ปรากฎในสำนวน



 

ข่าวทั้งหมด

X