การประชาสัมพันธ์ตามหาเจ้าของพระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พลตำรวจตรีสมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อ40ปีก่อน มีพ่อค้านำพระพุทธรูปใส่กระสอบและนั่งเรือมาขึ้นที่ท่าพระจันทร์ เพื่อนำมาขาย เมื่อเห็นตำรวจได้วิ่งกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาหลบหนีไป ตำรวจจึงยึดของกลางมาไว้ที่สน.ชนะสงคราม โดยไม่ได้ตัวผู้ต้องหา ซึ่งเวลาผ่านมาเกือบ 40 ปี ยังไม่มีผู้ใดมาแสดงความเป็นเจ้าของ วันนี้จึงอยากประชาสัมพันธ์หาเจ้าของที่แท้จริงเพื่อนำกลับไปบูชา คาดว่าเป็นพระพุทธรูปที่ถูกขโมยมาจากวัดในต่างจังหวัด หากใครหรือวัดใดที่คิดว่าเป็นเจ้าของสามารถติดต่อขอรับคืนได้ โดยนำหลักฐานเป็นรูปถ่ายหรือพยานบุคคลมายืนยัน ตำรวจจะประสานกรมศิลปากร ร่วมตรวจสอบ แต่หากภายใน 30 วัน ยังไม่มีเจ้าของมาติดต่อจะทำบันทึกให้เป็นมรดกของชาติต่อไป
ด้านนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นพระพุทธรูป 3 องค์ ประกอบด้วย พระพุทธรูปประทับนั่ง ปางมารวิชัย 1องค์ และพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร 2องค์ เป็นของแท้ดั่งเดิมตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ไม่เกินรัชกาลที่ 3
นางสาวพัชรินทร์ สุขประมูล ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ กรมศิลปากร กล่าวว่า พระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย มีลักษณะจีวรลายดอกพิกุล หน้าตัก 41 เซ็นติเมตร ความสูง 76.5 เซ็นติเมตร คาดว่า สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนอีก2องค์ มีลักษณะ จีวรลายดอกพิกุล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ คาดว่า สร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 3 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่จะพบเป็นพระประจำวัด ไม่ใช่พระบูชาประจำบ้าน และเป็นของแท้ดั้งเดิม ไม่ใช่พระพุทธรูปทำใหม่ ทั้งนี้ หากพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ยังอยู่ในวัด จะได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ