พันตำรวจเอกโอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการกอง 4 กองบังคับการตำรวจรถไฟ พร้อมด้วยนางสลิตา สุขเกษม ภรรยา เดินทางเข้าพบพลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม เพื่อเร่งให้ติดตามความคืบหน้าทางคดีที่นางสลิตา เคยเเจ้งความเอาผิดนางพูลสุข ปรัชญานุสรณ์ กรณีสวมทะเบียนบ้านและแก้ไขว่าตนเองเป็นบุตรของนางพูลสิน โพธิรักขิต ซึ่งเป็นคนที่รู้จักกัน เมื่อปี 2550 นางพูลสิน ได้เสียชีวิตก็เกิดการฟ้องร้องกันระหว่างนางพูลสุขกับพันตำรวจเอกโอฬารและนางสลิตาในการขอเป็นผู้จัดการมรดก แต่ศาลมีคำสั่งให้นางพูลสุข จัดการมรดก ทำให้ต่อมาเมื่อปี 2558 นางสลิตา เข้าแจ้งความกรณีนางพูลสุข ปลอมทะเบียนบ้านไว้ที่กองปราบปราม ซึ่งเวลาผ่านมาหลายปีแต่คดียังไม่คืบหน้า
พันตำรวจเอกโอฬาร กล่าวว่า วันนี้มาในนามส่วนตัว อดีตรู้จักคุ้นเคยกับนางพูลสิน เมื่อครั้งอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนางพูลสิน ไม่มีทายาท เป็นผู้มีฐานะ มีเงินสด ที่ดิน สวนยาง มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท และได้เสียชีวิตไปเมื่อปี 2550 ถูกนางพูลสุข คนที่นางพูลสิน เอามาเลี้ยงปลอมเอกสารและร้องต่อศาลเพื่อเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ