ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้:ผลกระทบไทย สงครามการค้าจีน-สหรัฐ/ประหารชีวิตยังจำเป็น/ประชุมกน.วันนี้

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.

+++ประเด็นสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ส่งผลกระทบ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรงมาปิดที่ 1,639.54 จุด ปรับลดลง 40.14 จุดด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่น 84,628.60 ล้านบาท นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวถึงการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนว่า สหรัฐประกาศประกาศเก็บภาษีเข้าสินค้าจีน 1,102 รายการ ขณะที่จีนตอบโต้มาตรการดังกล่าวทันทีด้วยการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ 649 รายการ ซึ่งมาตรการโต้ตอบระหว่างสหรัฐและจีน ย่อมส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการค้าโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และบั่นทอนบรรยากาศการค้าการลงทุนโลก อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบการส่งออกสินค้าที่เข้าข่ายถูกขึ้นภาษีระหว่างกันทะลักเข้ามาไทยสูงขึ้นกว่าปกติ

++++ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลงและมีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 1-2 ในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงไปต่อเนื่อง มองว่าเป็นโอกาสดีต่อผู้ส่งออกในการเร่งผลักดันส่งออกสินค้าและรายได้การส่งออกในรูปเงินบาทสูงขึ้น  ไทยจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง ยกเว้นตลาดทุนตลาดเงินที่มีความผันผวนสูง แต่เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับสงครามการค้าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

+++นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพกล่าว ในงานสัมมนาประจำปี AEC Business Forum 2018 ว่า การที่เงินทุนเคลื่อนย้ายออกจากไทยในช่วงนี้ยังไม่น่ากังวล เนื่องจาก พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง พร้อมเชื่อว่าทางการ และทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะดูแล และรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ โดยในส่วนภาคธนาคารก็มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน

+++ประหารชีวิตนักโทษคดีเด็ดขาด นายอรรถยุทธ พวงสุวรรณ พี่เลี้ยงนักโทษประหาร เจ้าพนักงานอบรมและฝึกวิชาชีพชำนาญงาน เรือนจำกลางบางขวาง ได้เผยแพร่ภาพอาหารมื้อสุดท้ายของนักโทษนายธีรศํกดิ์ หลงจิ  พร้อมข้อความ  ขอให้การประหารรายนี้เป็นการเตือนสติผู้ที่คิดจะกระทำผิด ได้รู้จักยับยั้งใจไม่กระทำ จะได้ไม่มีจุดจบเพราะการกระทำผิดเช่นรายนี้

+++ส่วนวิธีประหารชีวิตด้วยการฉีดสารพิษ เจ้าหน้าที่จะตรึงแขนนักโทษไว้ที่เตียง ก่อนจะลงเข็มปักไปที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง มีตัวยาและสารพิษดังนี้ 1.สารโซเดียนเพนโททัล ปริมาณ 20-25 ซีซี เข็มแรกจะทำให้หลับลึกไม่รู้สึกตัว 2.สารแพนคูไรเนียมโบรไมค์ ปริมาณ 50 ซีซี กล้ามเนื้อจะคลายตัวหัวใจหยุดทำงาน และ 3.สารโพแทสเซียมคลอไรด์ อีก 50 ซีซี หัวใจหยุดเต้นเสียชีวิตในที่สุด โดยจะใช้เวลาเพียง 25 นาที ซึ่งทุกๆ นาทีจังหวะการเต้นของหัวใจที่ปรากฏจอมอนิเตอร์ของเครื่องตรวจจับการเต้นของหัวใจ จะช้าลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นเส้นตรง ก่อนแพทย์จะร่วมตรวจสอบจนแน่ใจว่า "นักโทษเสียชีวิต" โดยกรมราชทัณฑ์ได้ส่งศพนายธีรศักดิ์ เคลื่อนไปที่กุโบร์ (สุสาน) สาธารณะประโยชน์บ้านนาป้อ หมู่ 8 ต.ควนปริง ห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. เพื่อฝังตามศาสนาอิสลาม

+++ส่วนนางสายจิตรแม่ผู้ตายเปิดเผยความรู้สึกว่า จนถึงขณะนี้ตนและทุกคนในครอบครัวยังเชื่อว่าลูกชายบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด เพราะตนเลี้ยงลูกทั้งหมด 4 คน ย่อมรู้นิสัยว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร

+++ส่วนนายสุนทร และนางยุคล สุขมาก พ่อแม่ของนาย ดนุเดช เหยื่อที่ถูกแทงเสียชีวิตเชื่อว่าคดีดังกล่าวยังมีคนร้ายที่ยังหลบหนีอยู่อีก เพราะในหลักฐานไม่ใช่ลงมือคนเดียว อยากให้ดำเนินคดีให้ครบทั้งสองคน ฝากเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวและน้องด้วย ที่ผ่านมาต้องเดินทางไปหาเจ้าหน้าที่ตลอดในการติดตามดำเนินคดี เสียทั้งเวลา ค่าใช้จ่าย เพียงแต่ต้องการจับคนร้ายให้ได้เท่านั้น

++++ที่หน้าเรือนจำกลางบางขวาง แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทยรวมตัวกันไว้อาลัยบุคคลที่ถูกประหารชีวิตและยืนยันจุดยืนไม่เห็นด้วยกับโทษประหารชีวิต ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (OHCHR) ได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการประหารชีวิตนายธีรศักดิ์ และคัดค้านการใช้โทษประหารชีวิตในทุกสถานการณ์สวนทางกับคำมั่นสัญญาของประเทศไทยทั้งในระดับประเทศและนานาประเทศ

+++ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นกฎหมายที่ยังคงมีอยู่ ซึ่งความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ เห็นว่าควรให้มีอยู่ การมีโทษประหารก็เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบสุขและเพื่อเป็นบทเรียนสอนใจ

+++ ด้านสื่อสังคมออนไลน์มีการแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การต่อต้านโทษประหารของแอมเนสตี้ฯ โดยส่วนใหญ่มองว่าต้องการประหารนักโทษเด็ดขาดมากกว่า รวมทั้งตำหนิว่าทำไมเวลาเหยื่อถูกกระทำ แอมเนสตี้ฯไม่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้เหยื่อและครอบครัวบ้าง ทั้งที่เป็นผู้ถูกกระทำให้เสียหาย

+++วันนี้ติดตามคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมวันนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ฟันธง กนง.ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามเดิม อย่างไรก็ดี ต้องจับตาปัจจัยอื่นๆ เช่น เรื่องเงินทุนไหลออกที่อาจมีผลทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า โครงสร้างตลาดเงินไทยกับสหรัฐที่ไม่สอดรับกัน อาจทำให้เกิดการบิดเบือนตลาดเงินต่อไป

+++คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะประชุมพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ หลังพบขบวนการนำสินค้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศเข้ามาในไทยหลายพื้นที่โดยการสำแดงเท็จ

++++วันนี้ เวลา 11.00 น. ตัวแทนกลุ่มคนไทยในประเทศออสเตรเลียจะนำหลักฐานไปแจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ  กรณีที่ถูกนางสาวเพียงตะวัน สมพินิจ ชักชวนให้คนไทยและนักศึกษาไทยในออสเตรเลีย กว่า 250 คน ร่วมลงทุนด้วยการนำเงินมาฝากไว้ พร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะให้ดอกเบี้ยเป็นรายสัปดาห์ รวมทั้งมีพฤติกรรมการรับโอนเงินสกุลต่างประเทศในเรทที่สูงกว่าธนาคาร แต่สุดท้ายได้หลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย จนทำให้มีมูลค่าความเสียหายทั้งหมดประมาณ 50 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายบางส่วนได้ไปขอความช่วยเหลือจากสถานกุงศลไทยในซิดนีย์ และตำรวจออสเตรเลียเรียบร้อย

+++ตำรวจเข้าควบคุมตัว  นายสุกิจ พูนศรีเกษมระหว่าง พา น.ส.สุริยะเทพ พระมหาสุริยา หรือ "ร่างทรง 4จี" เดินทางเข้าแจ้งความ ต่อพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดี กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือ เหยื่ออาชญากรรม ตามหมายจับคดีบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวนายสุกิจ ไปลงบันทึกประจำวันนั้น นายสุกิจได้แสดงท่าทีขัดขืน จากนั้นจะคุมตัวผู้ต้องหาไปยังศาลจังหวัดตาก เพื่อดำเนินคดี ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ใน อ.แม่สอด จ.ตาก ต่อไป

+++ส่งครูพี่เลี้ยง ศูนย์เด็กเล็ก อบต.ห้วยม่วง อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ที่ลืม "น้องแยม" ด.ญ. 5 ขวบในรถตั้งแต่เช้า ทั้งที่นั่งอยู่ข้างคนขับ กระทั่งมาพบศพตอนเย็น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีครูพี่เลี้ยง ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับการประกันตัวไปเมื่อช่วงเย็นวานนี้ พบว่า ครูพี่เลี้ยงกำลังตกอยู่ในอาการช็อก ร้องไห้ตลอดเวลา เพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้พาตัวครูพี่เลี้ยงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นแล้วขณะนี้

+++ส่วนนางเพชร น้อยแก้ว อายุ 70 ปี ยายของน้องแยม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ แม่ของน้องแยมก็ไปส่งหน้าปากทางเข้าบ้าน โดยน้องแยมนั่งหน้ารถเป็นเพื่อนครู กระทั่งถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.ห้วยม่วง ครูพี่เลี้ยงก็ลงมาเปิดท้ายกระบะพานักเรียนคนอื่นลงจากรถเพื่อเข้าเรียน แต่ลืมว่ามีน้องแยมนั่งอยู่ภายในรถ และมาพบอีกที่ช่วงเย็น ขณะจะพามาส่งที่บ้าน แต่เสียชีวิตแล้ว