รวบ3ผตห.อ้างตัวเป็นมัคคุเทศก์หลอกลวงนักท่องเที่ยวถ.มหาราช-ท้ายวัง

การจับกุมผู้ต้องหาหลอกนักท่องเที่ยวว่า วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวังปิดทำการ ก่อนจะหลอกให้ซื้อสินค้าและบริการในราคาสูง พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลพระราชวังและตำรวจท่องเที่ยวสามารถจับกุม นายภาณุพงศ์ กระจกเอี่ยม, นายธนพล กิตติเจริญสุข และนายสุเทพ วงษ์กุหลาบ 3ผู้ต้องหาอ้างเป็นมัคคุเทศก์ หลอกลวงนักท่องเที่ยวบริเวณถนนมหาราชและถนนท้ายวัง ว่า วัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวังปิดให้บริการ ก่อนจะหลอกให้นักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆจากร้านจิวเวอรรี่ ร้านตัดสูทหรือล่องเรือนำเที่ยวตามแม่น้ำเจ้าพระยา ในราคาสูงกว่าราคาจริง โดยผู้ต้องหาจะได้ส่วนต่างจากราคาสินค้าหรือบริการเป็นค่าตอบแทน ซึ่งหลังมีการเผยแพร่ข้อมูลทางโซลเชียล ได้สั่งการให้ตำรวจเร่งตรวจสอบ จนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการทำกันเป็นขบวนการ่วมมือกับผู้ขับขี่รถสามล้อรับจ้างและแท็กซี่หาเหยื่อนักท่องเที่ยว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ 

สำหรับร้านค้าที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หลังจากนี้จะขยายผลเข้าตรวจสอบ หากเข้าข่ายกระทำผิดก็จะดำเนินการทันที ซึ่งขณะนี้ทราบว่าร้านค้าหลายร้านได้ทำการปิดกิจการแล้ว  จึงอยากขอให้ผู้ประกอบการที่มีการทำพฤติกรรมดังกล่าวหยุดการกระทำลักษณะนี้  นอกจากนี้ยังได้กวดขันรถสาธารณะไม่ให้เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม พบผู้ขับขี่รถแท็กซี่กระทำผิดจำนวน140คัน ทั้งความผิดฐานไม่กดมาตรมิเตอร์ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ และไม่รับผู้โดยสาร โดยวันนี้ทางตำรวจที่รับผิดชอบได้จัดระเบียบแล้ว หากพบว่ากระทำผิดซ้ำจะประสานกรมการขนส่งทางบกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต

ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศไทยแล้วกว่า32.5ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก หากยังหลอกชวงนักท่องเที่ยวแบบนี้อีก จะส่งต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้ ยืนยันยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใดจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับสารภาพว่า เป็นคนหลอกนักท่องเที่ยวจริง โดยได้ค่าตอบแทนจากร้านค้าต่างๆ ที่พาเหยื่อเข้าไปซื้อสินค้า เบื้องต้นได้ดำเนินคดีข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ

ด้านหนึ่งในผู้ต้อง ได้ขอโทษที่ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง ต่อไปนี้จะไม่ทำอีก พร้อมยอมรับว่าหลอกนักเที่ยวจริง เช่น หากนักท่องเที่ยวอยากซื้อเสื้อผ้าก็จะพาไปมาร้านค้าแถวมาบุญครอง แต่หากสนใจตัดเสื้อสูทก็จะพาไปร้านย่านถนนสุโขทัย ซึ่งได้รับเงินค่าตอบแทนร้อยละ 15-25 เคยทำแล้วได้เงินสูงสุดถึง 4000 บาทต่อวัน

ส่วนลตำรวจตรีดุสิต สมศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล6ยืนยันจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก เพราะเป็นพื้นที่ศักสิทธิ์ จะมาประพฤติตนทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวไม่ได้