กรณีที่มีการเปิดโปงการทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
วันนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จัดเสวนาเรื่องการบริหารจัดการอาหารกลางวันนักเรียนให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ โดยมี บุคลากรทางการศึกษาและนักโภชนาการเข้าร่วมการเสวนา เช่น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดร.สง่า ดามาพงษ์ นายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดร.อุไรพร จิตแจ้ง นักโภชนาการชุมชนสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล ดร.สุปิยา เจริญศิริวัฒน์ นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
นายสุทธิพงษ์ เปิดเผย ว่า จากกรณีการทุจริตอาหารกลางวันเด็กนักเรียน โดยเฉพาะการนำขนมจีนคลุกน้ำปลามาให้เด็กนักเรียนกิน ถือเป็นการกระตุ้นให้เห็นถึงปัญหา และต้องทำการแก้ ปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืนไม่ใช่แค่เรื่องไฟไหม้ฟาง โดยใน 1 ปีมีการใช้เงินงบประมาณเรื่องอาหารกลางวันเด็กมากกว่า 22,000 ล้านบาท ซึ่งปัญหาไม่ได้เกิดจากความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณ
จากการเสวนาในวันนี้ได้ข้อสรุปว่า จะมีการผลักดันให้แต่ละพื้นที่มีนักโภชนาการ อย่างน้อยอำเภอหรือตำบลละ 1 คน เพื่อให้เด็กได้กินอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ร่วมกับ สถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ รวมถึงสำนักงานส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ หรือ สสส. นำระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติ Thai School Lunch หรือ TSL มาใช้ในสถานศึกษา ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะทำการออกแบบเมนูอาหารที่มีสารอาหารเหมาะสมต่อบริโภคเพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ตั้งเป้าหมายว่า จะมีการนำไปใช้ในโรงเรียนที่อยู่ในการกำกับดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.ภายใน 1 สัปดาห์ และให้มีการใช้ระบบดังกล่าวกับโรงเรียนในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ภายใน 1 ปี
ขณะเดียวกัน จะใช้วิธีจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อมาประกอบอาหารกลางวันโดยตรงจากผู้ปกครอง พร้อมทั้งปิดประกาศรายการอาหารและจำนวนวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารในแต่ละวัน เพื่อให้ประชาชนและชุมชนในพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตงบประมาณอาหารกลางวัน รวมทั้งแต่งตั้งคณะทำงานสุ่มตรวจโดยให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตามการจัดซื้อจัดจ้างอาหารกลางวันให้เป็นไปตามระเบียบอย่างเคร่งครัดและผลัดเปลี่ยนบุคลากรที่จะเข้ามาเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ
ด้าน ดร.สง่า กล่าวว่า เด็กต้องได้รับการพัฒนาด้านอาหารและโภชนาการ อย่างมีคุณค่า ซึ่งกรณีขนมจีนคลุกน้ำปลา ทำให้สังคมไทยตื่นขึ้น และร่วมกันแก้ไขปัญหา เพราะหากปล่อยให้เด็กบกพร่องทางสารอาหาร เด็กก็จะมีร่างกายที่เตี้ยแคระแกร็น สุขภาพไม่แข็งแรง ไม่มีการพัฒนาทางสมองที่สมบูรณ์ส่งผลต่อการเรียน จนเป็นการกระทบต่อทรัพยากรชาติ จึงเห็นด้วยกับการสนับสนุนและเร่งรัดนำระบบ Thai School Lunch มาใช้เพื่อคุณภาพอาหารที่ดีของเด็กอีกด้วย
...
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี