+++ตำรวจกรุงปารีส ของฝรั่งเศส รายงานว่า เกิดเหตุชายคนหนึ่ง มีท่าทีเหมือนสภาพจิตใจไม่มั่งคงพร้อมอาวุธปืนจับตัวประกัน 2 คน ภายในอาคารสำนักงานโฆษณาแห่งหนึ่งบนถนน รู เดอ เปอตี-เอคูรี (Rue des Petites-ecuries) ในเขตที่ 10 ของกรุงปารีส เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือตัวประกันและจับคนร้ายได้ ไม่พบข้อบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้าย
+++ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติ เรื่องดูแลราคาพลังงาน โดยในส่วนของราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี จะให้คงราคาที่ 363 บาท/ถังขนาด 15 กก.อย่างต่อเนื่อง เพราะคาดว่าราคาแอลพีจีตลาดโลกอาจจะปรับลดลง และในส่วนของหาบเร่แผงลอย รวมถึงครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยก็จะให้ลดราคาจาก 363 บาท/ถัง คงเหลือเป็น 325 บาท/ถัง 15 กก. ไปจนถึงสิ้นปี 2561 โดยทาง บมจ.ปตท.เข้ามาร่วมรับภาระเพิ่มอีก 250 ล้านบาท จากเดิม 500 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งเท่ากับว่า ปตท.เข้ามาอุดหนุนในส่วนนี้เดือนละ 49 ล้านบาท คาดว่า จะลดภาระผู้บริโภค
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ ปิดที่ 66.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 75.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากรายงานประจำเดือนของโอเปก ที่เปิดเผยว่า มีกำลังการผลิตสูงขึ้น นำโดยผู้ผลิตรายใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบีย
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆ ได้แรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยีและสาธารณูปโภค แต่นักลงทุนอยู่ในความระมัดระวัง จับตาการตัดสินใจของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ได้รับการคาดหมายว่าเฟดจะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้ ดาวโจนส์ ลดลง 1.58 จุด ปิดที่ 25,320.73 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.85 จุด ปิดที่ 2,786.85 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 43.87 จุด ปิดที่ 7,703.79 จุด
+++ราคาทองคำ ขยับลง 3.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,299.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++เรื่องงบประมาณ นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคม - กันยายนนี้ สำนักงบฯ เตรียมเสนอให้ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาออกพระราชบัญญัติโอนงบประมาณปี 2561 ในส่วนของเงินลงทุนที่ไม่สามารถทำสัญญาผูกพันงบประมาณได้ทันตามกรอบเวลาที่ ครม.กำหนดวงเงิน 14,486 ล้านบาท เข้าไปอยู่ในส่วนของงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งหน่วยงานใดใช้งบประมาณไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่สามารถทำสัญญาผูกพันงบประมาณได้ทันตามเวลาที่กำหนดจะเป็นตัวชี้วัดการพิจารณาจัดสรรงบประมาณปีถัดไปและจะถูกดึงงบประมาณไปจัดสรรให้หน่วยงานอื่นแทน
+++การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2561 ยังเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 300,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 88 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 2 หรือตั้งเป้าหมายไว้ร้อยละ 90 คิดเป็น 660,000 ล้านบาท
+++การพิจารณาจัดสรรงบประมาณประจำปี 2562 ที่ตั้งงบขาดดุลไว้ 300,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาวาระ 2 ของคณะกรรมาธิการ เพื่อหารือรายละเอียดงบประมาณโครงการต่าง ๆ ของแต่ละหน่วยงานให้มีความเหมาะสมก่อนเสนอให้ที่ประชุม สนช. พิจารณาเป็นวาระ 3 เพื่อเห็นชอบประกาศเป็น พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี พ.ศ.2562 (ต.ค.2561-ก.ย.2562) ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
+++การติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่า จะได้คำตอบจากทางการเยอรมนีภายใน 3 วัน ว่าจะส่งตัวกลับมายังประเทศไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กำลังประสานกับทางการเยอรมนี ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
+++สอดคล้องกับการเผยแพร่ข่าวที่ระบุว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) บินด่วนครั้งที่ 2 ติดตามอดีตพระพรหมเมธี โดยออกเดินทางไปฝรั่งเศส ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ คาดว่า จะไปประสานขอความช่วยเหลือจากตำรวจสากล ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองลียง จากนั้นอาจจะเดินทางต่อไปนครแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมัน
+++ขณะที่อีกด้านระบุว่า ผบ.ตร.เดินทางไปตามคำเชิญเข้าร่วมงานอาวุธปืนนานาชาติ เนื่องจากขั้นตอนในตอนนี้ อดีตพระพรหมเมธี ยื่นเรื่องขอลี้ภัยกับทางการเยอรมนีแล้ว ทำให้เรื่องการขอส่งตัวไม่เกี่ยวข้องกับตำรวจ แต่เป็นเรื่องที่อัยการและกระทรวงมหาดไทยประเทศเยอรมนีจะเป็นฝ่ายพิจารณา
+++ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้ากระทรวงการต่างประเทศยังทำอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการ ขอให้ทุกคนรอฟัง ทุกฝ่ายยังช่วยกันติดตามอยู่
+++10.00น. ตัวแทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ กลุ่มข้าราชการที่ร่วมกันทุจริตโกงเงินคนจน ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ หลังจากก่อนหน้านี้ ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการปราบปรามลงพื้นที่ตรวจพบการทุจริตหลายสิบจังหวัด
+++การดำเนินคดีบุคคลโพสต์บทความบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาลในเพจเฟซบุ๊กใช้ชื่อบัญชีว่า "KonthaiUk" พาดหัวข่าวว่า "เรือเหาะ...ก็ซื้อมาซ่อม ยังจะซื้อดาวเทียม 91,200 ล้านมาแดกอีก.. จะยอมมันอีกมั้ย!" พร้อมการนำภาพเรือเหาะ ดาวเทียม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มาตัดต่อรวมกัน นอกจากนี้ยังมีการตัดต่อภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ท่องเที่ยว พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปอท. ระบุว่า ได้ดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเผยแพร่หรือส่งต่อ(แชร์) ข้อความข่าวสารอันเป็นเท็จในเฟซบุ๊กที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ จำนวนทั้งสิ้น 7 ราย และอยู่ระหว่างออกหมายเรียกกว่า 20 รายในความผิดฐาน เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ซึ่งน่าจะทำให้เกิดความเสียหาย มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
++++จากการสืบสวนเกี่ยวกับเพจดังกล่าวทราบว่า ลงทะเบียนใช้ในชื่อ นางวัฒนา เอ็บเบจช์ พักอาศัยอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ศาลได้อนุมัติหมายจับ จะประสานไปที่อินเตอร์โพลให้ออกหมายแดงเพื่อนำตัวกลับมารับโทษ
+++กรณีตำรวจ บก.ภ.จ.เลย ตั้งแต่ระดับ ผกก.ถึงชั้นประทวน 192 นาย ร้องเรียนว่า พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รอง ผบช.สกพ. อดีต ผบก.ภ.จ.เลย ตั้งโครงการกู้รวมหนี้ของสหกรณ์ ช่วยปิดหนี้เสียธนาคาร มาเข้าสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย และชวนร่วมลงทุนสูญเงินไปกว่า 229 ล้านบาท จนมีการรวมตัวยื่นหนังสือถึง ผบช.ภ.4 มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และคณะกรรมการได้เรียก พล.ต.ต.สุทิพย์มาสอบสวน แต่เลื่อนนัดมาแล้ว 2 ครั้ง
+++คณะกรรมการสืบสวนสอบสวน มีมติสรุปว่า การกระทำของ พล.ต.ต.สุทิพย์ กับพวกมีมูลความผิดทางอาญาและวินัย เข้าข่าย พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 อยู่ระหว่างรอ พล.ต.ต.สุทิพย์ เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมการ ถึงจะสรุปเรื่องเสนอมายังตร. สำหรับการแก้ไขปัญหาสมาชิกสหกรณ์ฯ ที่ได้รับความเดือดร้อน ดังนี้ 1.มีการตกลงกับสถาบันการเงินหรือธนาคารเจ้าหนี้เพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้ โดยยอมให้ชำระหนี้งวดแรกงวดเดียวและยืดเวลาการชำระหนี้ออกไปเป็นหนึ่งปี จ่ายเฉพาะเงินต้น 500 บาทหรือ 1,000 บาทแล้วแต่ธนาคารเจ้าหนี้พร้อมดอกเบี้ยประจำเดือนโดยจะไม่ฟ้องร้องบังคับชำระหนี้ 2.สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย แก้ไขระเบียบสหกรณ์ฯ ขยายวงเงินกู้ฉุกเฉินเป็นกู้ได้ไม่เกินคนละ 50,000 บาท เพื่อให้สมาชิกยื่นกู้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
แฟ้มภาพ