จีน ย้ำจุดยืนเจรจาทางการทูตฟื้นสันติภาพคาบสมุทรเกาหลี/สภาเวียดนาม อนุมัติกม.ความมั่นคงไซเบอร์/อิหร่าน จับกลุ่มผู้ต้องสงสัย วางแผนก่อการร้ายในกรุงเตหะราน

+++ตำรวจกรุงปารีส ของฝรั่งเศส รายงานว่า เกิดเหตุชายคนหนึ่ง มีท่าทีเหมือนสภาพจิตใจไม่มั่งคงพร้อมอาวุธปืนจับตัวประกัน 2 คน ภายในอาคารสำนักงานโฆษณาแห่งหนึ่งบนถนน รู เดอ เปอตี-เอคูรี (Rue des Petites-ecuries) ในเขตที่ 10 ของกรุงปารีส ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำกำลังปิดล้อมพื้นที่เอาไว้  โฆษกตำรวจปารีส ระบุว่า เจ้าหน้าที่จากหน่วยพิเศษ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือตัวประกัน สามารถจับคนร้ายได้ และช่วยเหลือตัวประกันออกมาอย่างปลอดภัย ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจของชายคนดังกล่าว แต่ไม่พบข้อบ่งชี้ว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้าย ตำรวจ ยืนยันว่า ในช่วงที่เพิ่งเริ่มเกิดเหตุมีคนจำนวนหนึ่งสามารถหลบหนีออกมาจากอาคารได้ด้วย ทั้งนี้ ฝรั่งเศส อยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวังระดับสูง หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายหลายครั้ง

+++การหารือประชุมสุดยอดระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผูนำสหรัฐฯ กับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง รวมถึงการหารือกันแบบตัวต่อตัว โดยผ่านล่ามของแต่ละฝ่ายประมาณ 41 นาที  และมี4ข้อที่ตกลงร่วมกัน นักวิเคราะห์ สรุปว่าผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ดูเหมือนจะเป็นความตกลงค้นหาซากศพทหารสหรัฐฯ ที่สูญหายไปช่วงการสู้รบในสงครามเกาหลีระหว่างปี พ.ศ. 2493 - 2496 และนำกระดูกกลับไปยังสหรัฐฯ มีทหารสหรัฐฯสูญหายในสงครามเกาหลีเกือบ 7,800 นาย โดยประมาณ 5,300 นายในจำนวนดังกล่าวสูญหายในเขตแดนเกาหลีเหนือ

+++นายทรัมป์ ประกาศจะสั่งระงับการซ้อมรบ ระหว่างกองทัพสหรัฐฯและกองทัพเกาหลีใต้ ขณะที่การเจรจาระหว่าง 2 ประเทศยังดำเนินต่อไป นายทรัมป์ กล่าวว่า ข่าวกรองของสหรัฐฯ มีจำกัดเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ รู้แต่เพียงว่า มีเยอะมาก และยอมรับว่า การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือต้องใช้เวลานาน ระหว่างการหารือนายคิม ตอบรับคำเชิญพร้อมจะไปเยือนทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ในเวลาที่เหมาะสม

+++รัฐบาลเกาหลีใต้ แสดงท่าทีอย่างระมัดระวังต่อเรื่องการหยุดซ้อมรบร่วม ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงว่า ขอคิดทบทวนก่อนว่าถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ มีความหมายและเจตนาที่แท้จริงว่าอย่างไร อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ เชื่อว่าจะต้องหามาตรการหลากหลายอย่างในการผลักดันการเจรจาให้มีความคืบหน้าอย่างได้ผล คู่ขนานไปกับการเจรจาอย่างจริงจังเรื่องปลดนิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลี และสร้างสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ 

+++โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า จีน ปฏิบัติตามมติสหประชาชาติว่าด้วยเกาหลีเหนืออย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ ยืนยันมาตลอดว่าการคว่ำบาตรไม่ใช่เป้าหมาย มาตรการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรสนับสนุนและสอดคล้องกับการเจรจาทางการทูต เพื่อนำไปสู่การปลดนิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลี และส่งเสริมการหาทางออกทางการเมืองบนคาบสมุทรเกาหลี  จีนพร้อมแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์

+++นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซีย กล่าวว่า จะรื้อฟื้นการเปิดสถานทูตในกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ ถือเป็นการยุติความขัดแย้งทางการทูตจากเหตุสังหารพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อปีที่แล้ว นายมหาเธร์ ให้สัมภาษณ์นิกเกอิ เอเชียนรีวิว ระหว่างการเยือนญี่ปุ่นว่า มาเลเซีย เคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือ ต้องลดระดับความสัมพันธ์ลงอย่างมาก หลังเหตุผู้หญิงสองคนอ้างว่าโดนหลอกให้ใช้สารพิษสังหารนายคิม จองนัม ที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ เมื่อกุมภาพันธ์ 2560  ซึ่งสหรัฐฯและเกาหลีใต้ กล่าวหาว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือเป็นผู้บงการสังหารพี่ชายต่างมารดานายคิม จองอึน 

+++จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มาเลเซียเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศ สั่งห้ามพลเมืองไปเกาหลีเหนือ และยกเลิกการให้วีซาฟรีสำหรับพลเมืองเกาหลีเหนือ 

+++เกาหลีเหนือ ตอบโต้ด้วยการสั่งห้ามชาวมาเลเซียเดินทางมากรุงเปียงยาง กักตัวทูต 3 คนและสมาชิกครอบครัว สถานทูตมาเลเซียในกรุงเปียงยาง ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่เลยนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว

+++นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์ ที่นำเรื่องชาวญี่ปุ่นถูกลักพาตัวหารือกับนายคิม ทางการญี่ปุ่น ขึ้นทะเบียนพลเรือนที่ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปว่ามีทั้งหมด 17 คน แม้เป็นจำนวนไม่มากแต่ญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องร้ายแรง และนายกรัฐมนตรีอาเบะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง

+++แถลงการณ์ทางเว็บไซต์ของกระทรวงข่าวกรองอิหร่าน ระบุว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัย 27 คนที่ถูกจับกุม วางแผนลงมือก่อการร้ายในกรุงเตหะราน และสถานที่สำคัญในเมืองอื่นๆ การโจมตีตามแผนจะมีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การจับกุมเจ้าหน้าที่ยังยึดอาวุธและเครื่องกระสุนได้จำนวนมากด้วย  

+++รัฐสภาเวียดนาม อนุมัติกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ จะทำให้เฟซบุ๊กหรือกูเกิล ต้องลบเนื้อหาไม่เหมาะสมภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ ฝ่ายวิจารณ์กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ และเพิ่มการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกความคิดเห็น สมาชิก 15 คนจากทั้งหมด 466 ของรัฐสภาเวียดนาม ในกรุงอานอย ลงมติคัดค้านร่างกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 นายโว จอง  เวียต ประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมและความมั่นคง แถลงว่า กฎหมายฉบับนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และความมั่นคงของชาติ

CR:google.com.