นักวิชาการ จุฬาฯ เปรียบการลงนามทรัมป์-คิม เป็นการจุดคบเพลิง ต้องรอดูกระบวนการปลดอาวุธ

การลงนามร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ หลังการหารือครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศสิงค์โปร์ ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า กระบวนการปลดนิวเคลียร์จะเริ่มในเร็ว ๆ นี้ ในมุมมองของผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม กรรมการบริหารหลักสูตรเกาหลีศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า การประชุมครั้งนี้ มองว่าในส่วนของนายคิม ดูพูดน้อยแต่พูดเท่าที่จำเป็น ดูเป็นว่าเตรียมตัวมาดี  ไม่จำเป็นต้องพูดมาก ส่วนนายทรัมป์ จะพูดมากตลอดเวลา เหมือนเวลาที่เขาใช้ทวีตเตอร์เลยทำให้ไม่รู้สึกแตกต่าง การพูดของนายคิม ได้แต้มต่อ (พูดน้อยต่อยหนัก) กระบวนการสันติภาพเริ่มต้นแล้ว ดูจากท่าทีสหรัฐฯคงได้ตามที่ต้องการ เพียงแต่ว่ากระบวนการปลดอาวุธจะเริ่มต้นได้เมื่อใด ต้องคุยต่อเนื่อง ส่วนในประเด็นของเกาหลีเหนือก็น่าจะได้รับการผ่อนคลาย ผ่อนปรนการกดดันทางการค้า เศรษฐกิจได้ผลอย่างน่าพอใจ

ส่วนรายละเอียดข้อตกลงในการลงนามต้องดูอีกที การพบกันครั้งนี้ของ2ผู้นำ เสมือนเป็นการจุดคบเพลิงของการแข่งขันกีฬา วันนี้เป็นเพียงการจุดคบเพลิง กีฬายังไม่มีการแข่งขัน ส่วนที่ผู้นำลงนามน่าจะเป็นกรอบกว้างๆ ให้รู้ทิศทางว่าผู้นำไฟเขียวเรื่องอะไรบ้าง ส่วนการเจรจา ขั้นตอน หน่วยงานไหน  รับผิดชอบอะไร จะเป็นขั้นตอนต่อมา แต่เป็นแนวโน้มที่ดีถือว่าเป็นความสำเร็จในระดับหนึ่ง

CR:BBC