การประชุมระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กับ นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สิงคโปร์เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยในเวลา 8.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ทั้ง 2 คนพบหน้ากันตามกำหนดเวลาจากนั้นก็เป็นการหารือเป็นการส่วนตัว
โดยในการจับมือกันเป็นครั้งแรก ทั้ง 2 ฝ่ายต่างแสดงความคาดหวังว่าการประชุมจะนำไปสู่ข้อตกลงที่ดี และเมื่อเข้ามาในห้องรับรอง ประธานาธิบดีทรัมป์ บอกว่าการประชุมนัดประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และคาดหวังความสัมพันธ์ที่ดีต่อไป
ขณะที่นายคิม บอกว่า มีอุปสรรคมากมายก่อนการประชุม แต่ทุกคนก็ผ่านพ้นมาได้ และเขาคาดหวังว่าจะเป็นการหารือที่มองไปถึงอนาคตข้างหน้า
จากนั้นในเวลา 11.30 น. จะมีการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และการหารือทวิภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึง นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ, นายจอห์น เคลลี หัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบขาว, นายจอห์น โบลตันที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
หลังการประชุม ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดแถลงข่าวในเวลา 16.00 น. และจะเดินทางออกจากสิงคโปร์ในเวลา 19.00 น.
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ทวิตข้อความเกี่ยวกับประชุมร่วมกับนายคิมว่า การประชุมระหว่างคณะทำงานและผู้แทนของทั้ง 2 ประเทศ กำลังเป็นไปด้วยดีและเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะเร็วๆนี้ เราจะรู้ว่า ข้อตกลงที่แท้จริงซึ่งไม่เหมือนกับข้อตกลงอื่นๆ ในอดีตนั้นจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ก่อนหน้านี้ นายปอมเปโอ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ จะมีการทำข้อตกลงที่ใช้ได้จริงเท่านั้น และสิ่งเดียวที่สหรัฐฯ ยอมรับก็คือการที่เกาหลีเหนือต้องปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ถาวรและตรวจสอบได้ ดังนั้นสหรัฐฯจะยังไม่มีการยกเลิกมาตรการลงโทษใดๆ จนกว่าเกาหลีเหนือจะล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธทั้งหมด
สำหรับการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่ของ 2 ฝ่ายก่อนหน้านี้ นายปอมเปโอเปิดเผยว่า เป็นการประชุมที่เต็มไปด้วยสาระสำคัญและรายละเอียด โดยสหรัฐฯ พร้อมจะเสนอการรับประกันความมั่นคงแบบพิเศษ ให้เกาหลีเหนือ หากยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง และให้สหรัฐฯ และนานาชาติเข้าไปตรวจสอบ
วันนี้ยังต้องติดตามกรณีที่สหรัฐฯ ขู่ตัดจีเอสพีสินค้าไทย เพื่อกดดันให้นำเข้าหมูเนื้อแดงจากสหรัฐ โดยปลายเดือนกรกฎาคมนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ หรือ ยูเอสทีอาร์จะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในเรื่องการเปิดตลาดเนื้อหมูและเครื่องในจากสหรัฐที่ใช้สารเร่งเนื้อแดงแรคโตพามีนในการเลี้ยง ตามที่ได้หารือกันในการประชุมภายใต้กรอบความตกลงด้านการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐ (ทิฟา) เมื่อเดือนเมษายน 2561 ซึ่งยูเอสทีอาร์ย้ำว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุโครงการจีเอสพีให้กับประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาน้อยที่สุด นอกจากนี้การที่ไทยไม่เปิดนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ไทยไม่เข้าข่ายคุณสมบัติประเทศที่ได้รับสิทธิ์ด้านการเปิดตลาดสินค้าให้แก่สหรัฐฯอย่างเป็นธรรม
ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ ในประเทศวันนี้ ติดตามคดีเงินทอนวัด ซึ่งเครือข่ายทนายช่วยวัด จะไปยื่นหนังสือท้วงติง พศ. กรณีออกคำสั่งห้ามพระรับโอนเงินเข้าบัญชีและระเบียบอื่นๆที่เกินขอบเขตหน้าที่ของ พศ. และยื่นหนังสือกองปราบปรามเรียกร้องให้ดำเนินคดีข้าราชการสำนักพุทธฯที่เกี่ยวข้องเงินทอนวัด และเห็นควรให้พระเป็นพยาน มิใช่ผู้ต้องหา
กรมสอบสวนคดีพิเศษมีกำหนดร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยพันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับจังหวัดสิงห์บุรี โดย นายสุทธา สายวาณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ โดยจังหวัดสิงห์บุรีจะเป็นจังหวัดนำร่องเขตปลอดแชร์ลูกโซ่ 100 เปอร์เซ็นต์ในภาคกลาง
กรุงเทพมหานครวันนี้ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะลงพื้นที่ตรวจการระบายน้ำและจุดก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ที่มีผลกระทบต่อการระบายน้ำตามแนว ถ.วิภาวดีรังสิต
....