ประชุม ทรัมป์-คิม เริ่มแล้วท่ามกลางการคาดหวังเจรจาราบรื่นนำไปสู่การปลดนิวเคลียร์

12 มิถุนายน 2561, 08:21น.


การประชุมระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา กับ นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่สิงคโปร์เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยในเวลา 8.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ทั้ง 2 คนพบหน้ากันตามกำหนดเวลา โดยในการจับมือกันเป็นครั้งแรก ทั้ง 2 ฝ่ายต่างแสดงความคาดหวังว่าการประชุมจะนำไปสู่ข้อตกลงที่ดี



และเมื่อเข้ามาในห้องรับรอง ประธานาธิบดีทรัมป์ บอกว่าการประชุมนัดประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และคาดหวังความสัมพันธ์ที่ดีต่อไป ขณะที่นายคิม บอกว่า มีอุปสรรคมากมายก่อนการประชุม แต่ทุกคนก็ผ่านพ้นมาได้ และเขาคาดหวังว่าจะเป็นการหารือที่มองไปถึงอนาคตข้างหน้า



จากนั้นทั้ง 2 คนเข้าหารือเป็นการส่วนตัวโดยมีล่ามฝ่ายละ 1 คน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง



ในเวลา 11.30 น. จะมีการรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน และการหารือทวิภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึง นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ, นายจอห์น เคลลี หัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบขาว, นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ



หลังการประชุม ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดแถลงข่าวในเวลา 16.00 น. และจะเดินทางออกจากสิงคโปร์ในเวลา 19.00 น.



ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวิตข้อความเกี่ยวกับประชุมร่วมกับนายคิมว่า การประชุมระหว่างคณะทำงานและผู้แทนของทั้ง 2 ประเทศ กำลังเป็นไปด้วยดีและเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะเร็วๆนี้ เราจะรู้ว่า ข้อตกลงที่แท้จริงซึ่งไม่เหมือนกับข้อตกลงอื่นๆ ในอดีตนั้นจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อทำความรู้จักกับผู้นำเกาหลีเหนือ เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเจรจากันอีกหลายครั้งที่จะนำไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในที่สุด และเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวของสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี



นายปอมเปโอ กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ จะมีการทำข้อตกลงที่ใช้ได้จริงเท่านั้น และสิ่งเดียวที่สหรัฐฯ ยอมรับก็คือการที่เกาหลีเหนือต้องปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ถาวรและตรวจสอบได้ ดังนั้นสหรัฐฯจะยังไม่มีการยกเลิกมาตรการลงโทษใดๆ จนกว่าเกาหลีเหนือจะล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธทั้งหมด ส่วนการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่ของ 2 ฝ่ายเมื่อวานนี้ เป็นการประชุมที่เต็มไปด้วยสาระสำคัญและรายละเอียด โดยสหรัฐฯ พร้อมจะเสนอการรับประกันความมั่นคงแบบพิเศษ ให้เกาหลีเหนือ หากยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง และให้สหรัฐฯ และนานาชาติเข้าไปตรวจสอบ



อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็มีประวัติเรื่องการถอนตัวออกจากข้อตกลงที่ทำไว้กับนานาชาติ แต่นายมูน ชุง-อิน ที่ปรึกษาพิเศษด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีมูน แจ-อิน แห่งเกาหลีใต้ เตือนว่า พฤติกรรมในอดีตไม่ใช่ข้อบ่งชี้ถึงพฤติกรรมในอนาคตของเกาหลีเหนือ



รัฐบาลอิหร่านแถลงแสดงความสงสัยเกี่ยวกับการประชุมในครั้งนี้ และเตือนให้เกาหลีเหนือระวังอย่างสูงในคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ เพิ่งจะประกาศล้มเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์2558 ที่มหาอำนาจทำข้อตกลงไว้กับอิหร่าน



และในขณะที่มีการคาดหวังว่าการประชุมในครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น ยังมีนักวิชาการอีกกลุ่มหนึ่งที่เตือนว่า หากการเจรจาล้มเหลวไร้ข้อสรุป สหรัฐฯอาจมีปฏิบัติการทางทหารเพิ่มขึ้น นายอลิสัน อีแวนส์ รองหัวหน้าไอเอชเอส มาร์กิต สถาบันวิเคราะห์ด้านความเสี่ยงจากสถานการณ์โลก ประจำภูมิภาคเอเชีย เตือนว่า หากผู้นำทั้ง 2 ประเทศไม่สามารถตกลงกันได้ ก็หมายถึงความล้มเหลวของกระบวนการทางการทูตอีกครั้ง



ส่วนสื่อของเกาหลีเหนือยังคงนำเสนอบทบรรณาธิการ และรายงานข่าวในเชิงบวกต่อการประชุมในครั้งนี้ โดยระบุว่า ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว รวมถึงรายงานคำกล่าวของนายคิม เมื่อเดินทางมาถึงสิงคโปร์ว่า โลกกำลังจับตามองการประชุมในครั้งนี้



แต่เมื่อวิเคราะห์คำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ จะเป็นไปในอีกทางหนึ่ง เขากล่าวว่าไม่ได้เตรียมตัวมากนักสำหรับการประชุมครั้งนี้ เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น ประเด็นการหารืออย่างการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี, คำนิยามของการปลดอาวุธนิวเคลียร์, มาตรการและกำหนดห้วงเวลาดำเนินการ รวมทั้งการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและซับซ้อนเกินไป



....

ข่าวทั้งหมด

X