นายกฯสั่งดำเนินคดีทุจริตอาหารกลางวันเด็กนักเรียน/รองประวิตร เผย เจ้าหน้าที่กำลังทำอยู่จับอดีตพระพรหมเมธี/สิงค์โปร์ มอบเค้กวันเกิดให้ทรัมป์ ล่วงหน้า

+++นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขา กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ได้มีหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)ทุกเขต ขอให้รายงานข้อมูลมาให้ภายในวันพุธที่13 มิ.ย.นี้ ในหัวข้อที่เกี่ยวกับโครงการฯ ได้แก่ ข้อ1 สำรวจการโอนเงินงบประมาณค่าอาหารกลางวันจากทุกโรงเรียนเฉพาะภาคเรียนที่1/2561 ว่าโรงเรียนได้รับโอนเงินงบฯจัดสรรค่าอาหารกลางวันแล้วหรือยัง หากกรณีที่ได้รับช้ากว่าวันเปิดภาคเรียนนั้น ได้รับเมื่อใด หรือหากยังไม่ได้รับการโอนเงินงบฯ ทางโรงเรียนได้ดำเนินการอย่างไร (ในกรณีที่ได้รับงบประมาณช้าหรือยังไม่ได้รับโอนเงินงบประมาณ ให้ระบุด้วยว่าโรงเรียนนั้นๆอยู่ในพื้นที่ที่ต้องได้รับจัดสรรและโอนงบประมาณจากหน่วยงานใด โดยระบุอำเภอและจังหวัดด้วย) 

+++กรณีที่งบฯโอนช้าหรือยังไม่ได้รับการโอนงบฯโรงเรียนได้จัดอาหารกลางวันให้นักเรียนหรือไม่และหากจัดอาหารกลางวัน โรงเรียนมีวิธีการในการบริหารหรือจัดหางบฯมาดำเนินการอย่างไร  สพฐ.จะรวบรวมข้อมูลรายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเร็ว

+++ภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วยจังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร กำแพงเพชร และจังหวัดอุทัยธานี ตลอดช่วงเช้าจนถึงเที่ยงวันจะอยู่ที่จังหวัดพิจิตร  เร่งแก้ปัญหาการบุกรุก บึงสีไฟ Landmark สำคัญของจังหวัด ที่จะถูกเนรมิตให้เป็นสวนสาธารณะ บึงนี้มีปัญหาถูกบุกรุก และตื้นเขิน ซึ่งจะมีการปรับปรุงให้เป็นแก้มลิง แก้ปัญหาน้ำท่วม นายกฯ ระบุว่า การอนุมัติงบประมาณคงไม่สามารถให้ได้ทุกเรื่อง ต้องดูตามความจำเป็นเร่งด่วนและความเหมาะสม 

+++นายกฯ ยืนยันจะดำเนินคดีอย่างจริงจังหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิด หลังจากที่มีรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ขอให้ตรวจสอบความผิดปกติในการจัดซื้อวัตถุดิบในโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนสังกัดเทศบาล  อ.ตะพานหิน

+++กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ได้เตรียมขออนุมัติงบประมาณจากรัฐบาลวงเงินกว่า 5 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม รวม 6 ด้าน 25 โครงการ เช่น เขตเศรษฐกิจชีวภาพและการบริหารจัดการน้ำ ทั้งบึงสีไฟ บึงบอระเพ็ด และแม่น้ำต่าง ๆ รวมไปถึงด้านการท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานที่จะเน้นระบบเครือข่ายโลจิสติกส์เชื่อมต่อ รถ รางและเรือ

+++การติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์  หลังเกินกำหนด 3 วัน ที่ทางการเยอรมนีขอเวลาไว้ ในการพิจารณาคำร้องขอลี้ภัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ เมื่อถามว่า ทางการเยอรมนีแจ้งมาให้ทราบความคืบหน้าหรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ยัง เดี๋ยวเขากำลังดำเนินการอยู่  เมื่อถามว่า ฝ่ายไทยยังมั่นใจหรือไม่ว่าจะได้ตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมาดำเนินคดีในไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ เมื่อถามว่า ทางการเยอรมนีแจ้งมาว่าอย่างไรบ้าง พล.อ. ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม กล่าวว่า ไม่รู้

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย หุ้นไทย เคลื่อนไหวกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ เป็นไปตามตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยนักลงทุนยังคงรอดูปัจจัยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการประชุมธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ คือ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,723.11 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,947.56 ล้านบาท

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ปัจจัยสำคัญ คือ นักลงทุน ระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือจะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้  ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดเพิ่มขึ้น 109.54 จุด แตะที่ 22,804.04 จุด

+++การลงทุนในตลาดหุ้นฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 105.49 จุด  ปิดที่ 31,063.70 จุด

+++ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐฯและกลุ่มประเทศสมาชิก G7 ที่คว้าน้ำเหลวเมื่อวานนี้  ดัชนีอ่อนตัว 14.37 จุด ปิดที่ 3,052.78 จุด

+++นายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ให้การต้อนรับและเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะ ที่ทำเนียบอิสตานา ก่อนที่ผู้นำสหรัฐฯจะพบหารือครั้งประวัติศาสตร์กับนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซา วันพรุ่งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ขอบคุณความสนับสนุนของรัฐบาลและชาวสิงคโปร์ ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งสำคัญนี้ และเชื่อมั่นว่าจะเป็นการพูดคุยกันที่ น่าสนใจอย่างยิ่ง และบรรยากาศจะเป็นไปอย่างราบรื่น รัฐบาลสิงคโปร์ มอบเค้กวันเกิดล่วงหน้าให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งจะมีอายุครบรอบ 72 ปี ในวันที่ 14 มิ.ย.

+++ทั้งนี้ ยังไม่มีฝ่ายใดเปิดเผยกำหนดการหารืออย่างเป็นทางการ นอกเหนือจากการประชุมจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสิงคโปร์ ( 08.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวด้านการทูตของรัฐบาลวอชิงตัน เปิดเผยกับสำนักข่าวเอพีว่า ผู้นำของทั้งสองประเทศต้องการเริ่มหารือด้วยการพูดคุยกันแบบ ตัวต่อตัว โดยบุคคลอื่นภายในห้องประชุมจะมีเพียงล่ามฝ่ายละ 1 คนเท่านั้น และการสนทนาเป็นการส่วนตัวน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะอนุญาตให้ทีมงานของแต่ละฝ่ายเข้าร่วม ซึ่งคณะผู้ติดตามของนายทรัมป์รวมถึงพล.อ. จอห์น เคลลีย์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ

+++ด้านคณะผู้ติดตามของนายคิม จองอึน รวมถึงนายคิม ยองชอล รองประธานคณะกรรมาธิการกลางพรรคคนงานเกาหลี ซึ่งเยือนกรุงวอชิงตันและพบกับนายทรัมป์ราว 1 สัปดาห์ก่อนถึงสิงคโปร์ซัมมิต นายรี ซู-ยอง รองประธานกิจการวิเทศสัมพันธ์ของพรรคคนงานเกาหลี นายรี ยอง-โฮ รมว.กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ นายพลโน ควาง-ชอล รัฐมนตรีด้านกิจการกองทัพประชาชนเกาหลี ( เคพีเอ ) และน.ส. คิม โย-จอง น้องสาวของผู้นำสูงสุด

+++รัฐบาลสิงคโปร์วางกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบมากกว่า 5,000 นาย และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉินอีกจำนวนหนึ่ง ขณะเดียวกัน กองทัพยังส่งกำลังทหารเข้ามาสนับสนุนด้วยอีกเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการจัดวางระบบรักษาความปลอดภัยและการดูแลด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ

+++เว็บไซต์ข่าวจากสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอของสิงคโปร์ รายงานว่า นายไมค์ เปิดเผยในการแถลงข่าวที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท สิงคโปร์ ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯเชื่อว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ มีโอกาสครั้งสำคัญที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางความสัมพันธ์สหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ พร้อมทั้งนำพาสันติภาพและความเจริญก้าวหน้ากลับไปที่เกาหลีเหนือ ขณะนี้นายทรัมป์ เตรียมตัวพร้อมแล้วที่จะพบกับผู้นำเกาหลีเหนือ

+++การที่ผู้นำทั้งสองจะมีโอกาสนั่งคุยกันแบบเจอหน้ากันโดยตรงในวันพรุ่งนี้ ที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซา ในวันพรุ่งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะมีโอกาสพบปะกับผู้นำเกาหลีเหนือ ขณะอยู่ในตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ และนับว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่จะเกิดประโยชน์กับพลเมืองของประเทศทั้งสองและทั่วโลก ส่วนเรื่องมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ จะยังคงมีอยู่ต่อไปจนกว่าเกาหลีเหนือจะปลดขีปนาวุธอย่างสมบูรณ์และสามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน เรื่องนี้คือข้อสรุปประการเดียวที่รัฐบาลสหรัฐฯจะเรียกร้องจากผู้นำเกาหลีเหนือ

CR:รัฐบาลไทย